คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1997/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนดแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นและและอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยตามประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ฉุดคร่าและกระทำชำเราโจทก์ ต่อมาจำเลยกลัวความผิดจึงขอแต่งงานกับโจทก์ หลังจากทำพิธีแต่งงานตามประเพณีแล้วจำเลยไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสตามที่ตกลงไว้ จำเลยอยู่กินกับโจทก์เพียง 2 วันก็จากไปไม่ยอมกลับมาอีกจึงฟ้องเรียกค่าเสียพรหมจารี ค่าจัดอาหารและทำบุญเลี้ยงพระในวันทำพิธีแต่งงาน ค่าที่นอนหมอนมุ้งและเตียงนอนจากจำเลย

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยฉุดคร่าขู่เข็ญกระทำชำเราโจทก์ ไม่เคยตกลง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ยินยอมให้จำเลยกระทำชำเรา ไม่เป็นละเมิดจะไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแต่จำเลยผิดสัญญาหมั้นไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทน 11,000 บาท แก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดีข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์โดยใช้อุบายหลอกลวงขอแต่งงานกับโจทก์หรือไม่พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์กำหนด แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่แล้วฟังว่า จำเลยไม่ได้หลอกลวงหรือทำละเมิดต่อโจทก์แต่เป็นเรื่องจำเลยผิดสัญญาหมั้น พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนจำนวน 11,000 บาทแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์รวม 7,000 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีนี้โจทก์ตั้งฐานฟ้องเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดหาว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ให้ทำการสมรสกับจำเลย ศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานกำหนดประเด็นว่า จำเลยทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่และค่าเสียหายมีเพียงใด คู่ความไม่โต้แย้งคดีไม่มีประเด็นเรื่องผิดสัญญาหมั้น ทั้งฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่ามีการหมั้นกันมาก่อน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ก็ระบุชัดโดยกำหนดให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยใหม่ตามประเด็นที่ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยใช้อุบายหลอกลวงขอแต่งงานกับโจทก์หรือไม่ ถ้าฟังได้ว่าหลอกลวงดังกล่าวจริงจะเป็นละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ในการวินิจฉัยคดีใหม่ ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าจำเลยหลอกลวงหรือกระทำละเมิดต่อโจทก์ แต่เห็นว่าเป็นการผิดสัญญาหมั้น คดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ใหม่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าปัญหาเรื่องละเมิดหรือไม่เป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ขึ้นมา แต่ศาลอุทธรณ์ยังเห็นว่าจำเลยผิดสัญญาหมั้นและพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายดังนี้ ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นที่ศาลอุทธรณ์เองกำหนดให้ไว้ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา

พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์

Share