คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำรถยนต์เอาประกันวินาศภัยไว้กับจำเลยตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยระบุไว้ว่า “การสูญหรือเสียหายแก่ยานพาหนะที่ระบุไว้ในตารางแห่งกรมธรรม์นี้รวมทั้งเครื่องอุปกรณ์ในระหว่างที่ยังติดประจำอยู่อันเกิดจาก (ก) ไฟไหม้ ฯลฯ หรือลักทรัพย์หรือ (ข) การกลั่นแกล้งหรือ (ค) ระหว่างเดินทางโดยทางถนน รถไฟ ฯลฯ” เมื่อรถยนต์ของโจทก์ถูกคนร้ายชิงเอาไปขณะเดินทางโดยทางถนนจึงเป็นกรณีที่โจทก์สูญเสียยานพาหนะที่เอาประกันภัยไว้ในความผิดฐานชิงทรัพย์ ซึ่งมีการกระทำที่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ในตัวถือได้ว่าโจทก์ต้องสูญเสียรถ เพราะมีการลักรถนั้นไป กรณีต้องตามเงื่อนไขในสัญญากรมธรรม์ประกันภัย จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้นำรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน พ.บ. ๐๒๐๒๓ ประกันภัยไว้กับบริษัทจำเลยมีกำหนด ๑ ปี ระหว่างอายุสัญญาประกันภัยลูกจ้างของโจทก์ได้นำรถยนต์คันนี้ไปจอดไว้ที่ปั๊มน้ำมันปฐมภัณฑ์ ๒ ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม แล้วถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขู่เอารถยนต์ไป โจทก์ยังไม่ได้รับรถคืน ได้ทวงถามให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน ๑๐๐,๐๐๐ บาทตามสัญญา จำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับชำระเงินจำนวนนี้พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่ง นับแต่วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๔ถึงวันฟ้อง
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ แต่ต่อมาในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยรับว่าโจทก์ได้นำรถยนต์คันที่หายประกันภัยไว้กับจำเลยจริงและรับว่าลูกจ้างของโจทก์ได้ขับรถคันนี้จากจังหวัดสมุทรปราการจะไปจังหวัดชุมพร พอถึงจังหวัดนครปฐมลูกจ้างของโจทก์ขับรถไปจอดหลบฝนอยู่ที่ปั๊มน้ำมันปฐมภัณฑ์ ๒ ขณะนั้นมีพวกคนร้ายมาชิงเอารถไป โจทก์ จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นเดียวว่าจำเลยจำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ๑๐๗,๔๗๙ บาท กับดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า รถยนต์ของโจทก์ถูกคนร้ายชิงไปเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยไม่มีความหมายรวมไปถึงการชิงทรัพย์ จำเลยไม่ต้องรับผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยข้อ ๒ ระบุไว้ว่า “การสูญหรือเสียหายแก่ยานพาหนะที่ระบุไว้ในตารางแห่งกรมธรรม์นี้รวมทั้งเครื่องอุปกรณ์ที่ยังติดประจำอยู่อันเกิดจาก
(ก) ไฟไหม้ ฯลฯ หรือลักทรัพย์ หรือ
(ข) การกลั่นแกล้ง หรือ
(ค) ระหว่างการเดินทาง โดยทางถนน รถไฟ ฯลฯ”
เมื่อรถยนต์ของโจทก์ถูกคนร้ายชิงเอาไปขณะเดินทางโดยทางถนน จึงเป็นกรณีที่โจทก์สูญเสียยานพาหนะที่เอาประกันภัยไว้ในความผิดฐานชิงทรัพย์ ซึ่งมีการกระทำที่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ในตัวถือได้ว่าโจทก์ต้องสูญเสียรถเพราะมีการลักรถนั้นไป กรณีต้องตามเงื่อนไขในสัญญากรมธรรม์ประกันภัยของจำเลย จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share