คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาประกันชีวิต ถือการชำระเบี้ยประกันภัยตามกำหนดเวลาที่ระบุไว้เป็นสาระสำคัญแห่งสัญญา และเป็นเรื่องต่างตอบแทนกันโดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้เอาประกันภัย
การที่ผู้เอาประกันภัยส่งเบี้ยประกันภัยเกินกำหนดเวลาล่วงพ้นวันผ่อนผันตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแล้วถือว่าสัญญานั้นเป็นอันสิ้นสุดอายุ มีผลให้กรมธรรม์ประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดบังคับไม่ได้ตามกฎหมายทันที หากจะให้มีผลบังคับต่อไปอีก ผู้เอาประกันภัยจะต้องปฏิบัติตามที่บริษัทผ่อนผันไว้เช่น ทำใบรับรองสุขภาพในการขอต่อสัญญาที่ขาดอายุไปตามที่กำหนดในสัญญานั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่านายกวงเอี๋ยวได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทจำเลยในแบบสะสมทรัพย์ แบบทุพพลภาพ แบบอุปัทวเหตุและแบบฌาปนกิจเริ่มประกันวันที่ 21 ตุลาคม 2495 ครบกำหนดวันที่ 8 กันยายน 2515ได้ชำระเบี้ยประกันงวด 3 เดือนเป็นเงินงวดละ 205.90 บาทตลอดมาและนายกวงเอี๋ยวถึงแก่กรรมเมื่อ 8 พ.ค. 2498 โจทก์ผู้เป็นภรรยาและบุตรได้เรียกร้องให้จำเลยชำระเงินประกันชีวิตของนายกวงเอี๋ยวเป็นเงิน 10,000 บาทและเงินประกันแบบฌาปนกิจอีก 10,000 บาทรวม20,000 บาท จำเลยปฏิเสธความรับผิด และกรมธรรม์นี้จำเลยมิได้ปิดอากรแสตมป์เป็นเงิน 30 บาท และใบรับเงินชั่วคราวอีก 2 ฉบับ ๆละ 10.10 บาท โจทก์ต้องนำไปให้พนักงานเจ้าหน้าที่สรรพากรปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายเสียเงิน 50.20 บาท จึงขอให้จำเลยใช้เงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยปฏิเสธความรับผิดว่า นายกวงเอี๋ยวขาดส่งเบี้ยประกัน2 งวดหลัง โดยชำระเกินกำหนดพ้นวันผ่อนผัน 30 วันไปแล้ว และมิได้เสนอใบรับรองสุขภาพตามระเบียบ กรมธรรม์จึงสิ้นผลบังคับและจำเลยวางเงินต่อศาลเพื่อชำระแก่โจทก์เป็นเงิน 441.80 บาท คือเป็นเงินเบี้ยประกัน 2 งวดหลังกับค่าอากรแสตมป์ที่จำเลยยอมรับผิด

ศาลชั้นต้นเห็นว่านายกวงเอี๋ยวชำระเบี้ยประกันภัยพ้นกำหนดจึงเป็นฝ่ายผิดนัด ทำให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับตามเงื่อนไขที่ระบุไว้และไม่มีพฤติการณ์อันแสดงว่าได้มีสัญญากันขึ้นใหม่ พิพากษาให้จำเลยใช้เฉพาะค่าอากรแสตมป์ที่โจทก์ออกแทนไป 50.20 บาท

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่านายกวงเอี๋ยวได้ชำระเบี้ยประกันให้แก่ผู้แทนของจำเลยแล้ว แม้ 2 งวดหลังจะได้ชำระเกินกำหนด ก็ไม่ทำให้สัญญาระงับเพราะในกรมธรรม์มิได้มีข้อความอันใดระบุไว้โดยแจ้งชัดและไม่ปรากฏเรื่องใบรับรองสุขภาพไว้ด้วย พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้เงิน 20,000 บาทแก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ผู้เอาประกันภัยได้ส่งเบี้ยประกันภัย 2 งวดหลังเกินกำหนดเวลาและล่วงพ้นวันผ่อนผันอีก30 วัน ถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญา สัญญาเป็นอันสิ้นสุดอายุ มีผลให้กรมธรรม์ประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดบังคับไม่ได้ตามกฎหมายทันทีทั้งนี้เพราะสัญญาประกันชีวิตเป็นกฎหมายพิเศษ ให้ถือเอาการชำระเบี้ยประกันภัยตามกำหนดเวลาซึ่งระบุไว้เป็นสาระสำคัญแห่งสัญญาและเป็นเรื่องต่างตอบแทนกันโดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของผู้เอาประกัน แม้กรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นผลบังคับไปเพราะเหตุที่ขาดส่งเบี้ยประกันภัย ผู้เอาประกันภัยยังมีโอกาสติดต่อกับบริษัทจำเลยเพื่อกลับคืนสู่ผลบังคับต่อไปอีกได้ โดยทำใบรับรองสุขภาพในการขอต่อสัญญาที่ขาดอายุไปตามสัญญา แต่นายกวงเอี๋ยวก็มิได้ปฏิบัติการดังที่บริษัทจำเลยผ่อนผัน จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น

Share