คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อเรือมาดไว้จากผู้ที่ยักยอกเจ้าของมา แม้จะซื้อไว้โดยสุจริต ก็ไม่ได้กรรมสิทธิเจ้าของย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้
โจทก์ฟ้องเรียกเรือคืนจากจำเลย ๆ ให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า เรือพิพาทเป็นทรัพย์ของผู้อื่น และจำเลยซื้อจากผู้นั้น โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น ดังนี้ ประเด็นข้อที่ว่า ผู้ขายเป็นพ่อค้าขายเรือหรือไม่ จึงไม่ต้องวินิจฉัยและจำเลยไม่มีสิทธิจะยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างอิงในชั้นฎีกาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายบุญส่ง เยือนสมบัติ เช่าเรือมาดของโจทก์ไป แล้วยักยอกไว้ และหลบหนีไป ต่อมาปรากฎว่า เรือของโจทก์อยู่ทีจำเลย โจทก์จึงฟ้องขอคืนและเรียกค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า เรือพิพาทเป็นของนายบุญส่ง เยือนสมบัติ จำเลยรับซื้อไว้จากนายบุญส่ง โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนเรือและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรือพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยซื้อไว้จากนายบุญส่ง ผู้มิใช่เป็นเจ้าของ-อันมีสิทธิจะโอนกรรมสิทธิในทรัพย์นั้นได้ – โดยชอบ จำเลยย่อมไม่ได้กรรมสิทธิอย่างใดในทรัพย์นั้น ข้อที่จำเลยอ้างว่า ซื้อเรือจากนายบุญส่งซึ่งจำเลยนำสืบว่า เป็นพ่อค้าขายเรือนั้นตามคำให้การแก้คดีของจำเลย จำเลยมิได้ยกประเด็นนี้ขึ้นต่อสู้คดีประการใดเลย จำเลยต่อสู้คดีแต่เพียงว่าทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์ของนายบุญส่ง และจำเลยซื้อจากนายบุญส่ง โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตเท่านั้น จำเลยไม่มีสิทธิจะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นฏีกาได้
จึงพิพากษายืน

Share