คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1983/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ฎีกาจำเลยมิได้โต้เถียงว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ไม่ชอบอย่างไรคงกล่าวอ้างแต่เพียงว่าจำเลยไม่ทราบว่าถูกฟ้อง จึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงิน และดอกเบี้ยที่โจทก์ฟ้อง ไม่อาจต่อสู้คดีและคัดค้านคำพิพากษาของศาลได้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคแรก.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ ระหว่างนัดไต่สวนคำขอฝ่ายจำเลยขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตและสั่งให้จำเลยที่ 2 ซึ่งมาศาลในวันนั้นนำส่งหมายนัดและสำเนาคำขอให้โจทก์ใหม่ภายใน 5 วันปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้นำส่งหมายนัดและสำเนาคำขอให้โจทก์ภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่อีกฉบับหนึ่ง ลงวันที่21 สิงหาคม 2529 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้นที่จำหน่ายคำขอให้พิจารณาใหม่ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำขอให้พิจารณาใหม่ แล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำขอใหม่แล้ววินิจฉัยว่า คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น จึงไม่จำต้องพิจารณาว่าจำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดหรือไม่ ให้ยกคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองมิได้ยกเหตุข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นกล่าวอ้างโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่ชอบในข้อไหนอย่างไร คงกล่าวอ้างแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองไม่ทราบว่าถูกฟ้อง จึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงินและดอกเบี้ยที่โจทก์ฟ้องได้อย่างถูกต้อง จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจต่อสู้คดีและคัดค้านคำพิพากษาของศาลได้ ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยชัดแจ้งในฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาจำเลยทั้งสอง.

Share