คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 3 และมีการขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยอ้างว่าเป็นภรรยาของจำเลยที่ 3 แต่มิได้บรรยายให้เห็นว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับทรัพย์ดังกล่าวอย่างใด ผู้ร้องย่อมมิได้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดได้.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์เป็นเงิน 4,784,657.53 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแต่จำเลยทั้งสามไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 12655แขวงบางโคล่ (บ้านทวาย) เขตยานนาวา (บางรัก) กรุงเทพมหานคร ของจำเลยที่ 3 พร้อมตึกแถว 4 คูหา ออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้มีชื่อจำเลยที่ 3 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ร้องเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 3 วันขายทอดตลาดผู้ร้องในฐานะภรรยาจำเลยที่ 3 ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกยึดได้มอบฉันทะให้นายเรืองศักดิ์ คำภู ทนายความเข้าฟังการขายทอดตลาดในการขายทอดตลาดมีผู้เข้าสู้ราคาเพียงคนเดียว คือนายสุวิทย์ สุธรรมบุตรซึ่งเสนอซื้อที่ดินและตึกแถวในราคา 1,120,000 บาท ทนายผู้ร้องคัดค้านว่าเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรกและมีผู้เข้าสู้ราคาเพียงคนเดียว ราคาที่เสนอซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ขอให้เลื่อนการขายทอดตลาดออกไป ผู้ร้องจะนำผู้มีชื่อมาซื้อได้ในราคาที่สูงกว่าราคาที่นายสุวิทย์เข้าสู้ราคา แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิคัดค้าน การขายทอดตลาดดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดใหม่
โจทก์และนายสุวิทย์ สุธรรมบุตร ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดยื่นคำคัดค้านว่าการขายทอดตลาดชอบแล้ว ผู้ร้องมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะผู้ร้องเป็นเพียงภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 3 มิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามความหมายของมาตรา 280(1)แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นสมควรวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้องข้อแรกก่อนว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายที่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดรายนี้ได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 บัญญัติว่า เพื่อประโยชน์แห่งบทบัญญัติในภาคนี้ บุคคลต่อไปนี้ให้ถือว่ามีส่วนได้เสียในวิธีบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
(1) เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา และในกรณีที่มีการอายัดสิทธิเรียกร้องลูกหนี้แห่งสิทธิเรียกร้องนั้น…
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องบรรยายในคำร้องแต่เพียงว่าผู้ร้องเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดออกขายทอดตลาดเท่านั้นมิได้บรรยายให้เห็นว่าผู้ร้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์ดังกล่าวอย่างใดจึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียในวิธีบังคับคดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ได้…”
พิพากษายืน.

Share