แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้คัดค้านทั้งสองเป็นบุตรของ ล. กับ ช. หลังจากช. ตายแล้ว ล. ได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายเมื่อปี 2495และผู้ตายถูกฆ่าตายเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2530 โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดตายก่อนหลัง เมื่อผู้คัดค้านทั้งสองไม่ใช่ทายาทของผู้ตายผู้คัดค้านทั้งสองจึงไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในฐานะที่จะได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตาย ดังนี้ เมื่อทรัพย์มรดกของ ล. และผู้ตายระคนปนกันอยู่ ทรัพย์สินของผู้ตายย่อมเป็นมรดกตกได้แก่ทายาทของผู้ตาย ส่วนทรัพย์สินของ ล.ย่อมเป็นมรดกได้แก่ทายาทของ ล. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 การแบ่งแยกทรัพย์สินของผู้ตายและ ล. ที่ระคนปนกันอยู่ออกเป็นทรัพย์มรดกของแต่ละคนย่อมเป็นประโยชน์และส่วนได้เสียแก่ทายาทของผู้ตายและทายาทของ ล. แต่ละฝ่ายต่างหากจากกันการแบ่งแยกทรัพย์สินเช่านี้เป็นผลได้เสียแก่ทายาทแต่ละฝ่ายขัดแย้งกัน ทายาทแต่ละฝ่ายต่างมีสิทธิดูแลรักษาผลประโยชน์ของตน ทายาทของ ล. มีสิทธิขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกของ ล. เพื่อดูแลผลประโยชน์ได้อยู่แล้วหากให้ทายาทของ ล. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายด้วยย่อมมีเหตุให้น่าระแวงว่าจะเกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทของผู้ตายได้ จึงไม่สมควรให้ผู้คัดค้านทั้งสองซึ่งเป็นทายาทของนายเล็กเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรนางสุภาภรณ์กับพันตำรวจตรีชัย หลังจากนางสุภาภรณ์หย่าขาดกับพันตำรวจตรีชัยแล้วจึงมาสมรสใหม่กับนายเล็ก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2530นางสุภาภรณ์และนายเล็กถูกฆ่าตายพร้อมกัน นางสุภาภรณ์ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางสุภาภรณ์ผู้ตาย
ผู้คัดค้านทั้งสามยื่นคำร้องคัดค้านทำนองเดียวกันว่าผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 3 เป็นบุตรของนายเล็กกับนางชุ่มหรือชุ่มทิพย์ หลังจากนางชุ่มตาย นายเล็กสมรสใหม่กับนางสุภาพันธ์ ส่วนผู้คัดค้านที่ 2 เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับนายเล็ก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2530 นางสุภาภรณ์และนายเล็กถูกคนร้ายฆ่าตายโดยนางสุภาภรณ์ตายก่อนนายเล็กทรัพย์มรดกของนางสุภาภรณ์ส่วนหนึ่งจึงตกได้แก่นายเล็กและทรัพย์มรดกของนายเล็กตกได้แก่ผู้คัดค้านทั้งสาม ทรัพย์สินที่เป็นมรดกของนางสุภาภรณ์กับนายเล็กมีจำนวนมากและระคนปนกันอยู่ผู้ร้องทราบว่าทรัพย์มรดกมีจำนวนมากแต่กลับปกปิดไว้ ผู้ร้องจึงไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ ผู้คัดค้านทั้งสามต่างขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านแต่ละคนเป็นผู้จัดการมรดกของนางสุภาภรณ์ ผู้ตาย
ผู้คัดค้านที่ 2 ขอถอนคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องและของผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 3
ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งนางปราณีตที่ 1นางประนอม ที่ 3 ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนางสุภาภรณ์ผู้ตายตามคำคัดค้าน กับให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาเพียงว่า ผู้คัดค้านทั้งสองเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนางสุภาภรณ์ผู้ตายและสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นตามทางนำสืบของผู้คัดค้านโดยผู้ร้องมิได้นำสืบโต้เถียงเป็นอย่างอื่นว่า ผู้คัดค้านทั้งสองเป็นบุตรของนายเล็กกับนางชุ่ม หุตานนท์ หลังจากนางชุ่มตายแล้ว นายเล็กได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายเมื่อปี 2495 นายเล็กและผู้ตายถูกฆ่าตายเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2530 ปัญหาที่จะวินิจฉัยประการแรกว่า ผู้ตายกับนายเล็กผู้ใดตายก่อนในข้อนี้ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าผู้ตายและนายเล็กถูกฆ่าตายในวันที่ 5 สิงหาคม 2530 ไม่มีฝ่ายใดนำสืบได้ว่าผู้ใดตายก่อนหลัง และเมื่อผู้คัดค้านทั้งสองไม่ใช่ทายาทของผู้ตาย ผู้คัดค้านทั้งสองจึงไม่เป็นผู้ส่วนได้เสียในฐานะที่จะได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตาย เมื่อผู้ตายและนายเล็กตายทรัพย์สินของผู้ตายย่อมเป็นมรดกตกได้แก่ทายาทของผู้ตายส่วนทรัพย์สินของนายเล็กย่อมเป็นมรดกตกให้แก่ทายาทของนายเล็กตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 และในชั้นนี้ยังฟังไม่ได้แน่ชัดว่านายเล็กตายทีหลัง ผู้ตายมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายในฐานะคู่สมรสของผู้ตาย การแบ่งแยกทรัพย์สินของผู้ตายและนายเล็กที่ระคนปนกันอยู่ออกเป็นทรัพย์มรดกของแต่ละคนย่อมเป็นประโยชน์และส่วนได้เสียแก่ทายาทของผู้ตายและทายาทของนายเล็กแต่ละฝ่ายต่างหากจากกัน การแบ่งแยกทรัพย์สินเช่นนี้เป็นผลได้เสียแก่ทายาทแต่ละฝ่ายขัดแย้งกัน ทายาทแต่ละฝ่ายต่างมีสิทธิดูแลรักษาผลประโยชน์ของตนทายาทของนายเล็กมีสิทธิขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกของนายเล็กเพื่อดูแลผลประโยชน์ได้อยู่แล้ว หากให้ทายาทของนายเล็กเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายด้วยย่อมมีเหตุให้น่าระแวงว่าจะเกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทของผู้ตายได้ จึงไม่สมควรให้ผู้คัดค้านทั้งสองซึ่งเป็นทายาทของนายเล็กเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้คัดค้านที่ 1 และผู้คัดค้านที่ 3 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์