คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดินพิพาททั้งสองแปลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ผลของคำพิพากษาย่อมไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ผู้รับจำนองที่พิพาทดังกล่าวเป็นบุคคลภายนอกซึ่งมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วย ย่อมไม่ต้องถูกผูกพันโดยคำพิพากษา โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยปลอดจากจำนอง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทโฉนดที่ดินเลขที่ 62793 และ 62794 แขวงหลักสองเขตหนองแขม (ภาษีเจริญ) กรุงเทพมหานคร
ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาททั้งสองแปลง โจทก์จึงได้นำโฉนดที่ดินพิพาททั้งสองแปลงไปขอจดทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ต่อสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขาหนองแขม แต่เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่าโจทก์สามารถจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ แต่ที่ดินยังคงติดจำนองอยู่โจทก์เห็นว่าโจทก์มิใช่ผู้รับโอนตามกฎหมาย โจทก์กลับคืนสู่ฐานะเดิมโดยผลของคำพิพากษา ดังนั้นเดิมโจทก์มีฐานะเช่นใด ก็ควรจะมีฐานะอยู่เช่นนั้น ผู้รับจำนองควรที่จะเรียกร้องกับผู้จำนองโดยตรง มิใช่ต้องให้โจทก์รับผิดด้วย แม้คำพิพากษาจะมิได้กล่าวถึงการจำนองแต่โดยผลของคำพิพากษาน่าจะผูกพันไปถึงการจำนองด้วย
โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้โจทก์มีสิทธิที่จะจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยปลอดจากจำนอง
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนการซื้อขายที่ดินพิพาททั้งสองแปลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ผลของคำพิพากษาย่อมไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอกได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145ผู้รับจำนองที่พิพาทดังกล่าวเป็นบุคคลภายนอกซึ่งมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วย ย่อมไม่ต้องถูกผูกพันโดยคำพิพากษา โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยปลอดจากจำนอง”

Share