แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเรียกค่าทดแทนเนื่องจากผิดสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรสนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1438บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เรียกได้เฉพาะกรณีที่มีการหมั้นเท่านั้นการที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจะสมรสหรือจดทะเบียนสมรสโดยไม่มีการหมั้น เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโจทก์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยหาได้ไม่
โจทก์จำเลยสมรสกันตามประเพณี และตกลงกันว่าหากจำเลยสำเร็จการศึกษาแล้วจำเลยจะไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ แต่เมื่อจำเลยสำเร็จการศึกษาแล้ว จำเลยไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์นั้น การที่โจทก์ต้องสูญเสียความเป็นสาวและอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยโดยไม่จดทะเบียนสมรสกัน เกิดจากความสมัครใจของโจทก์มิใช่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลย การที่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ ก็มิใช่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ หรือเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420, 421 จำเลยไม่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยได้ทำพิธีสมรสกันตามจารีตประเพณีหลังจากเสร็จพิธีสมรสแล้วโจทก์ขอให้จำเลยไปจดทะเบียนสมรส จำเลยบอกว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของสถาบันการศึกษาและขอผัดไปจนกว่าจำเลยจะสำเร็จการศึกษา โจทก์ยินยอมตามที่จำเลยขอร้อง โจทก์จำเลยต่างอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาตลอดมา จำเลยสำเร็จการศึกษามา ๒ ปีโจทก์เตือนจำเลยไปจดทะเบียนสมรส จำเลยเพิกเฉย และขับไล่โจทก์มิให้อยู่ร่วมกับจำเลย กับไม่อุปการะเลี้ยงดูโจทก์ อันเป็นการจงใจละเมิดผิดสัญญา ทำให้โจทก์เสียหายเนื่องจากต้องสูญเสียความเป็นสาวชื่อเสียงเกียรติคุณ และ วงศ์ตระกูล คิดเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์จำเลยได้สมรสกันตามจารีตประเพณีแล้วแต่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนสมรส ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๒๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วสั่งว่า ตามคำบรรยายฟ้องเป็นเรื่องโจทก์จำเลยสมัครใจสมรสกัน มิใช่เรื่องจำเลยกระทำละเมิด ทั้งข้อหาผิดสัญญาสมรสมิใช่เรื่องผิดสัญญาหมั้น หาอาจเรียกค่าเสียหายทดแทนแก่กันได้ไม่ และศาลจะพิพากษาตามคำขอที่ให้แสดงว่าโจทก์จำเลยได้สมรสกันตามจารีตประเพณีแล้ว จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนสมรสก็ไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่าหากจำเลยสำเร็จการศึกษาจำเลยจะไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ แต่เมื่อจำเลยสำเร็จการศึกษาแล้วไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์นั้น เห็นว่าการเรียกค่าทดแทนเนื่องจากผิดสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรสนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษในบรรพ ๕ คือมาตรา ๑๔๓๘ บัญญัติว่าเมื่อมีการหมั้น ถ้าฝ่ายใดผิดสัญญาหมั้นฝ่ายนั้นต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนและไม่มีบทมาตราใดบัญญัติว่าในกรณีที่ไม่มีการหมั้น หากฝ่ายใดผิดสัญญาสมรส ให้ฝ่ายนั้นรับผิดใช้ค่าทดแทนอย่างเช่นกรณีที่มีการหมั้น การตกลงกันว่าจะสมรสหรือจดทะเบียนสมรสโดยไม่มีการหมั้น จึงนอกขอบเขตที่กฎหมายรับรองเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ โจทก์ก็เรียกค่าทดแทนจากจำเลยไม่ได้ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๒๕/๒๕๐๙ การที่โจทก์สูญเสียความเป็นสาวและอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยโดยไม่จดทะเบียนสมรสเกิดจากความสมัครใจของโจทก์ มิใช่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยการที่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ ก็มิใช่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ หรือเป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐, ๔๒๑ จำเลยไม่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
พิพากษายืน