แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายถือมีดดาบไปถึงโรงจำเลยเวลากลางคืนและร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตู จำเลยไม่ยอมเปิด ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในห้องจำเลย จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปอยู่ใต้ถุน ผู้ตายใช้ดาบแทงตามร่องพื้นโรงจนจำเลยต้องหนีออกจากใต้ถุนจะออกทางประตู ผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่มีดดาบไปถูกแปหลังคาโรงเสีย จำเลยหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที ดังนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
ได้ความว่าผู้ตายเคยเป็นปากเสียงกับจำเลยและอาฆาตจำเลยโดยเข้าใจว่า จำเลยยุแหย่ให้นางสาว ซ. หลานจำเลยซึ่งผู้ตายเคยปลุกปล้ำหนีไป คืนเกิดเหตุผู้ตายมีมีดดาบไปร้องเรียกให้จำเลยเปิดประตูโรงจำเลยไม่เปิด ผู้ตายตัดเชือกผูกประตูเปิดเข้าไปในในห้องจำเลย จำเลยคว้าได้ขวานหลบหนีไปใต้ถุนพื้นโรง จำเลยจึงต้องโผล่ออกจากใต้ถุนเพื่อจะหนีออกทางประตู ผู้ตายใช้มีดดาบฟันจำเลยแต่ไม่ถูก มีดไปถูกแปหลังคาโรงเสีย จำเลยจึงหันมาใช้ขวานฟันผู้ตายหลายที โจทก์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 249 จำเลยแก้ว่า ทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 249, 53 ริบขวานของกลาง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คืนขวานของกลางให้เจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายืน