คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตายกที่นาให้หลานแล้วไปจำศีลอาศัยอยู่ที่วัด ต่อมาร่างกายทรุดโทรมเพราะชรามาก จึงกลับมาขออาศัยหลานอยู่ หลานไม่ยอมให้ตาอาศัยจนตาต้องไปอาศัยอยู่กับบุตรคนหนึ่งต่อมาหลานหนีผัวตามชู้ไป ตาว่ากล่าวสั่งสอน หลานกลับด่าตาด้วยถ้อยคำหยาบช้าลามากต่าง ๆ ดังนี้ ชอบที่จะถอนคืนการให้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นตาจำเลย ได้ยกที่นาของโจทก์ ๑ แปลงให้จำเลย บัดนี้ชรามากมาขออาศัยจำเลยอยู่จำเลยปฏิเสธบอกปัดไม่ยอมเลี้ยงดูโจทก์ ซ้ำยังบังอาจกล่าวคำหยาบช้าหมิ่นประมาทโจทก์ต่อหน้าธารกำนัล จึงขอให้จำเลยคืนนา
ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ชรามาก จึงต้องออกจากวัดมาขออาศัยอยู่กับจำเลย ๆ ไม่ยอมให้อาศัยโดยพูดว่าถูกหลานแกมีหลายคนไปอยู่เขาซี ถ้าแกจะมาอยู่ก็ช่วยข้าทำนาซี โจทก์ต้องไปอาศัยนายกองบุตรโจกท์อีกคนหนึ่งอยู่ ต่อมาจำเลยหนีผัวตามชู้ไป โจทก์ตามจำเลยมาว่ากล่าว จำเลยกลับด่าว่าโจทก์ว่า อ้ายเฒ่าหัวหงอก อ้ายหน้าซ่นตีน ไม่ใช่ธุระของมึง เรื่องของกู กูไม่ใช่ไปเอากันบนหัวมึง ดันนี้ได้ชื่อว่าจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์แล้ว พิพากษาให้ถอนคืนการให้ที่นาดังฟ้องโจทก์
จำเลยฎีกาอนาถาต่อมา
ศาลฎีกาเชื่อข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ยอมให้โจทก์อาศัยอยู่ด้วย ตอนจำเลยหนีตามชู้ไป โจทก์สั่งสอนว่ากล่าวจำเลยกลับด่าว่าโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบช้าลามกต่าง ๆ ศาลอุทธรณ์พิพากษามาชอบแล้ว คงพิพากษายืน

Share