แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงการแปลเอกสารสัญญาซึ่งฟังคำพยานบุคคลประกอบนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริงคู่ความมีโอกาศคัดค้านเรื่องประเด็นนำสืบในศาลชั้นต้นแล้ว แต่นิ่งเสียพึ่งยกขึ้นอ้างในศาลสูง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ขายฝากสวนยางราคา ๑๕๐๐ บาท ไว้แก่สามี น.จำเลยซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว โดยทำเป็นกรมธรรม์ที่อำเภอมีกำหนดไถ่ถอนใน ๑ ปี ถ้าไม่ไถ่ในกำหนดยอมให้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ซื้อฝาก กรมธรรม์ขายฝากมีแผนที่สังเขปท้ายสัญญาว่ากว้าง ๔๐ วายาว ๒๐๐ วา แต่แผนที่วิวาทกว้างยาวกว่านี้ ตามใบจองยิ่งกว้างยาวกว่านั้นไปอีก ฝ่ายโจทก์ขอให้ถือตามแผนที่สังเขปฝ่ายจำเลยขอให้ถือตามใบเหยียบย่ำ
ศาลล่างทั้งสอง ฟังพะยานบุคคลประกอบว่าคู่สัญญามีเจตนาขายฝากกันทั้ง ๒ แปลงตามแผนที่วิวาท จึงพิพากษาให้จำเลยชนะคดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสำนวนปรากฏว่าโจทก์สืบก่อนเสร็จแล้วจำเลยนำสืบ โจทก์ฎีกาว่าศาลทำเช่นนั้นทำให้โจทก์เสียเปรียบเพราะจำเลยมีหน้าที่นำสืบ ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาข้อนี้โจทก์มีโอกาศว่ากล่าวในศาลชั้นต้น แต่นิ่งเสียจนศาลพิพากษาเสร็จแล้วจึงยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๔๖๑ ม.๙ ส่วนข้อแปลสัญญาโดยฟังพะยานบุคคลประกอบในเรื่องเจตนาของคู่สัญญาเป็นปัญหาข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาไม่ได้ ให้ยกฎีกา