คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญากู้เงินเขามอบนาให้เขาทำกินต่างดอกเบี้ยโดยมีข้อสัญญากันว่า จะไถ่ถอนภายในกำหนด ถ้าไม่นำเงินมาไถ่ถอนตามกำหนดก็ให้ฝ่ายยึดถือที่ดินนั้นเป็นกรรมสิทธิสืบไป ดังนี้เมื่อที่ดินนานั้นไม่มีหนังสือสำหรับสำหรับที่และไม่มีการไถ่ถอนภายในกำหนด ก็ย่อมต้องถือว่าผู้กู้ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินสละสิทธิครอบครองมานั้นให้แก่ผู้ให้กู้แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า กู้เงินจำเลยแล้วมอบนาให้ทำต่างดอกเบี้ย บัดนี้โจทก์ขอไถ่ จำเลยกลับบิดพลิ้ว จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์สัญญาจะไถ่ถอนภายใน ๗ ปี ครบกำหนดแล้วไม่ไถ่ จึงตกเป็นของจำเลยแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับเงิน ๗๕ บาท และมอบนาคืนแก่โจทก์ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา ปรึกษาคดีแล้ว โจทก์จำเลยมีหนังสือสัญญา ความชัดว่า โจทก์มอบนาพิพาทให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ยมีกำหนด ๗ ปี ถ้าโจทก์ไม่นำเงินมาถอนคืนภายใน ๗ ปี ขอให้ฝ่ายจำเลยยึดถือที่ดินพิพาท เป็นกรรมสิทธิต่อไป นาพิพาทไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ฉะนั้นจึงต้องฟังว่าเมื่อครบ ๗ ปีแล้วไม่มีการไถ่ถอนโจทก์ก็ได้สละสิทธิครอบครองที่ดินนั้นให้แก่จำเลยเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์มาฟ้องขอไถ่ถอนเมื่อ ๑๗ ปีภายหลัง โดยอ้างว่าจำเลยขอผัดทำกินต่อไปนั้น โจทก์ต้องสืบแสดงให้เห็นประจักษ์ แต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่เป็นหลักฐานที่จะเชื่อฟังได้แต่อย่างใดเลยจึงพิพากษายืน

Share