คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันโจทก์จะอ้างความเป็นเจ้าของหรือสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาทไม่ได้เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิในที่ดินนั้นดีกว่าโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งเนื้อที่ 18 ไร่ต่อมาโจทก์แบ่งที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 ทำกินเพื่อเลี้ยงดูโจทก์ เป็นเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2525 โจทก์ประสงค์จะเข้าทำกินในที่ดินเอง แต่จำเลยที่ 1 นำที่ดินไปให้จำเลยที่ 2ทำกินต่างดอกเบี้ย จึงขอให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ขายที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1ต่อมาจำเลยที่ 1 ทำสัญญาจะซื้อขายให้แก่บุตรของจำเลยของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 มีสิทธิเข้าทำกินโดยอาศัยสิทธิของบุตรจำเลยที่ 2 ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างสืบพยานโจทก์ โจทก์ถึงแก่กรรม นางหลัก พาหาร บุตรสาวโจทก์ขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบและที่ศาลล่างทั้งสองรับฟังมาว่า จำเลยที่ 1 เป็นหลานสาวโจทก์ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 139 ของโจทก์ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 13 ตำบลลานป่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ที่ดินแปลงนี้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โดยเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ร่วมกัน เมื่อ พ.ศ. 2522 จำเลยที่ 1ได้เข้าครอบครองทำนาในที่ดินแปลงนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม2525 จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินแปลงนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 และขณะนี้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครองที่ดังกล่าวอยู่ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินพิพาทหรือไม่
พิเคราะห์แล้ว เมื่อฟังว่าที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โดยเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ร่วมกัน โจทก์จะอ้างความเป็นเจ้าของหรือสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาทไม่ได้ ผู้ใดครอบครองอยู่ผู้นั้นย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้อื่นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะนี้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอยู่จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิในที่ดินนั้นดีกว่าโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินพิพาทได้ ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ที่จำเลยที่ 1 เข้าครอบครองทำนาในที่ดินพิพาทโดยซื้อจากโจทก์ หรือโจทก์ให้อาศัยทำกินและจำเลยที่ 1 มีสิทธินำที่ดินพิพาทไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share