คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจของจำเลยที่มอบอำนาจให้ช.ต่อสู้คดีไม่ได้ประทับตราสำคัญของจำเลยแต่การที่ช.ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้แล้วจำเลยได้แต่งตั้งทนายความให้ดำเนินคดีต่อมาโดยนำสืบพยานไปตามคำให้การนั้นถือได้ว่าจำเลยได้ให้สัตยาบันยอมรับคำให้การดังกล่าวแล้วจำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำสืบพยานไปตามคำให้การนั้นได้โดยชอบ. จำเลยนำสืบเอกสารหมายล.1ถึงล.15โดยมิได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์แต่ศาลแรงงานมีคำสั่งว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับคดีและจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุอ้างเป็นพยานแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมถือว่าเป็นพยานที่ศาลเรียกมาดังนี้เมื่อศาลแรงงานได้ใช้อำนาจตามมาตรา45แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522แล้วเอกสารดังกล่าวย่อมรับฟังได้.

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสี่ฟ้องว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิดขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสี่
จำเลยให้การว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะจำเลยสั่งให้โจทก์ทั้งสี่ไปปฏิบัติงานต่างจังหวัดแต่โจทก์ทั้งสี่ปฏิเสธและไม่ยอมปฏิบัติงานเป็นการขัดคำสั่งและละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ทั้งสี่โดยไม่ต้องจ่ายเงินตามฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่าแม้หนังสือมอบอำนาจของจำเลยที่มอบอำนาจให้นายชูชัยต่อสู้คดีจะไม่ได้ประทับตราสำคัญของจำเลยก็ตามแต่การที่นายชูชัยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้แล้วจำเลยได้แต่งตั้งทนายความให้ดำเนินคดีต่อมาโดยนำสืบพยานไปตามคำให้การที่นายชูชายต่อสู้คดีไว้ย่อมถือได้ว่าจำเลยให้สัตยาบันยอมรับคำให้การดังกล่าวแล้วจำเลยจึงมีสิทธิที่จะนำสืบพยานไปตามคำให้การนั้นได้โดยชอบ
ศาลแรงงานกลางได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเอกสารหมายล.1ถึงล.15ซึ่งจำเลยไม่ได้ส่งสำเนาให้แก่โจทก์(ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่26ธันวาคม2528)ความว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับคดีและจำเลยได้ยื่นบัญชีระบุอ้างเป็นพยานแล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมถือว่าเป็นพยานที่ศาลเรียกมาแล้วรับฟัองเอกสารดังกล่าวศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อศาลแรงงานกลางได้ใช้อำนาจตามมาตรา45แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522แล้วเอกสารดังกล่าวย่อมรับฟังได้โดยชอบ
พิพากษายืน.

Share