คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องมิใช่ทายาทของ ส. แม้ ส.จะทำพินัยกรรมยกที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกให้แก่ผู้ร้อง แต่ต่อมา ส.ก็ทำพินัยกรรมหลักยกทรัพย์ดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น พินัยกรรม ฉบับก่อนจึงเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1697 ผู้ร้องจึงหมดสิทธิรับมรดกของ ส.และไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ของ ส. ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า นายสุขซึ่งถึงแก่ความตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ผู้ร้องแต่ผู้เดียว ขอให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
นางสงวนยื่นคำร้องคัดค้านว่า พินัยกรรมของผู้ร้องเป็นโมฆะ ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียกับทรัพย์มรดก และไม่ได้เป็นทายาทของนายสุข นายสุขทำพินัยกรรมฉบับหลังยกที่ดินและบ้านตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องให้ผู้คัดค้าน ขอให้ศาลสั่งยกคำร้อง และตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งแต่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุข และให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุขผู้ตายร่วมกัน
ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างฎีกาขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ที่จะต้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓ นั้น นอกจากพนักงานอัยการแล้ว คงมีแต่ทายาทและผู้มีส่วนได้เสียเท่านั้น ผู้ร้องมิใช่ทายาทของนายสุข แม้ นายสุขจะทำพินัยกรรมยกที่ดินอันเป็นทรัพย์อันดับ ๒ ในบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องให้แก่ผู้ร้องตามพินัยกรรมฉบับลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๕ แต่ต่อมา นายสุขก็ทำพินัยกรรมฉบับลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๕ ยกทรัพย์อันดับที่ ๑ และ ๒ ในบัญชีท้ายคำร้องให้แก่ผู้คัดค้านและนายสมศักดิ์ ปรากฏตามเอกสารหมาย ร.ค. ๑ พินัยกรรมฉบับลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๕ จึงขัดกับพินัยกรรมฉบับลงวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๑๖ พินัยกรรมฉบับวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๔ อันเป็นพินัยกรรมฉบับหลัง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๙๗ ผู้ร้องจึงหมดสิทธิรับมรดกของ นายสุขและไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ของนายสุข ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้ ส่วนผู้คัดค้านนอกจากเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุข และเป็นทายาทโดยธรรมของนายสุขแล้วยังปรากฏว่าเป็นทายาทตามพินัยกรรมเอกสารหมาย ร.ค.๑ ของนายสุขอีกด้วย ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้ และมีเหตุผลอันสมควรที่จัดตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้แต่ฝ่ายเดียว ที่ผู้ร้องฎีกาว่าพินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.ค.๑ ไม่สมบูรณ์นั้น ก็ไม่ปรากฏจากข้อนำสืบของฝ่ายใดว่าพินัยกรรมตามเอกสารหมาย ร.ค.๑ ไม่สมบูรณ์ดังที่ผู้ร้องฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสุขร่วมกับผู้คัดค้านนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น แต่ฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้น
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share