แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญเจ้าของยกให้โดยไม่ได้ทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้รับการให้ได้เข้าครอบครองมากว่าหนึ่งปีแล้วย่อมได้สิทธิตาม ม.1367 ฉะนั้นเจ้าของเดิมทำพินัยกรรม์ยกที่ดินนั้นให้ผู้อื่นในภายหลังจึงไม่มีผล
โจทก์บรรยายฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ แล้วนำสืบว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยผู้อื่นยกให้เช่นนี้ เป็นการสืบถึงเหตุที่ได้ที่พิพาทมา ไม่เป็นการสืบนอกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกเข้าแบ่งทำนา จึงขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นของจำเลยโดยได้รับมรดกมาจากนางขำย่าจำเลย
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า นางขำย่าจำเลยได้ทำหนังสือยกนาพิพาทให้โจทก์เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ ต่อมาภายหลังได้ทำพินัยกรรมยกที่พิพาทให้จำเลยเมื่อหลังจากยกให้โจทก์แล้วกว่า ๑ ปี จึงไม่มีผลตามกฎหมายเพราะนางขำได้สละสิทธิครอบครองให้โจทก์แล้วพิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นางขำได้ยกที่นาพิพาทให้โจทก์ ๆ ได้ครอบครองมากว่าปีแล้ว ฉะนั้นแม้นางขำจะทำพินัยกรรม์ยกที่พิพาทให้จำเลยก็ไม่มีผล แม้การให้จะไม่สมบูรณ์ ถ้าผู้รับเข้าครอบครองก็ย่อมได้สิทธิตามป.พ.พ.ม. ๑๓๖๗ ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้สิทธินาพิพาทมาอย่างไร จะสืบว่านางขำยกให้เป็นการสืบนอกฟ้องนั้น เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่าทรัพย์เป็นของตน และสืบถึงเหตุที่ได้ทรัพย์มา จึงไม่ใช่เป็นการสืบนอกฟ้องแต่อย่างใด เป็นเรื่องต่อเนื่องกันไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ จึงพิพากษายืน