แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จะไม่ปรากฎว่าบริษัทก.เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินจากคณะกรรมการควบคุมการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่286และที่ดินโฉนดเลขที่31569ส่วนที่เป็นทางพิพาทนั้นเป็นที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาตก็ตามก็ถือได้ว่าการกระทำของบริษัทก.ที่แบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อย90แปลงเพื่อขายนั้นเป็นการแสดงออกโดยปริยายแล้วว่าบริษัทก.จัดให้มีสาธารณูปโภคคือทางพิพาทอันถือได้ว่าเป็นการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่286ลงวันที่24พฤศจิกายน2515ข้อ30 การที่บริษัทก.จะขออนุญาตจัดสรรที่ดินหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากหากจะเป็นการดำเนินการฝ่าฝืนประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวก็ไม่ทำให้การดำเนินการของบริษัทก.ไม่เป็นการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายดังนั้นทางพิพาทจึงเป็นภารจำยอมตามกฎหมายแก่ที่ดินที่จัดสรรและที่ดินที่โจทก์ซื้อจากบริษัทก.จำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ต่อจากบริษัทก. ย่อมอยู่ในบังคับประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่286ข้อ30ที่จะกระทำการใดๆอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเลื่อนความสะดวกมิได้ โจทก์ซึ่งซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวในที่ดินจัดสรรดังกล่าวย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาทได้การที่มีการก่อสร้างโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางภารจำยอมย่อมเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเมื่อที่ดินแปลงที่ทางภารจำยอมตั้งอยู่โอนมาเป็นของจำเลยโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทางภารจำยอมได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 131590พร้อมอาคารพาณิชย์ โดยซื้อจากบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัดมีการประกาศโฆษณาว่ามีถนนจำนวน 8 สาย เข้าออกศูนย์การค้าและอาคารพาณิชย์บนที่ดินโฉนดเลขที่ 31569 ที่ดินดังกล่าวจึงตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินจัดสรรและที่ดินโจทก์ จำเลยซื้อตลาดสดศูนย์การค้าซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 31569 ดังกล่าว และปลูกสร้างโรงเรือนทำให้กีดขวางเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถใช้เป็นทางเดินและใช้รถยนต์แล่นเข้าออกได้ ขอให้บังคับจำเลยเปิดทางภารจำยอมโดยรื้อถอนโรงเรือนพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว และทำให้ถนนอยู่ในสภาพที่โจทก์ใช้ได้สะดวก
จำเลยให้การว่า บริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัด จดทะเบียนที่ดินโฉนดเลขที่ 31569 ให้เป็นภารจำยอมของที่ดินโฉนดเลขที่131596 ซึ่งเป็นของจำเลยเท่านั้น ไม่ได้ให้ตกเป็นภารทรัพย์แก่ที่ดินแปลงอื่น โจทก์และจำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กัน จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยเปิดทางภารจำยอมโดยรื้อถอนโรงเรือนพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกไปจากถนนภารจำยอมในที่ดินพิพาท และทำให้ถนนภารจำยอมอยู่ในสภาพใช้ได้สะดวก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จะไม่ปรากฎว่าบริษัทกรนพเก้าการเคหะจำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินจากคณะกรรมการควบคุมการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติ และที่ดินโฉนดเลขที่ 31569 ส่วนที่เป็นทางพิพาทเป็นที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต ถือได้ว่า การกระทำของบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัด ที่แบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อย 90 แปลงเพื่อขาย เป็นการแสดงออกโดยปริยายว่าบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัดจัดให้มีสาธารณูปโภค คือ ทางพิพาท ส่วนการที่บริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัด จะขออนุญาตจัดสรรที่ดินหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก หากจะเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะปฏิวัติก็ไม่ทำให้การดำเนินการของบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัดไม่เป็นการจัดสรรที่ดินตามกฎหมาย ดังนั้น ทางพิพาทจึงเป็นภารจำยอมตามกฎหมายแก่ที่ดินที่จัดสรรและที่ดินที่โจทก์ซื้อจากบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัดจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนกรรมสิทธิต่อจากบริษัทกรนพเก้าการเคหะ จำกัด ย่อมอยู่ในบังคับประกาศของคณะปฏิวัติที่จะกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้ โจทก์ซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวในที่ดินจัดสรรดังกล่าวย่อมมีสิทธิใช้ทางพิพาทได้ การที่มีการก่อสร้างโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางภารจำยอม ย่อมเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดหรือเสื่อมความสะดวก ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเมื่อที่ดินแปลงที่ทางภารจำยอมตั้งอยู่โอนมาเป็นของจำเลย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทางภารจำยอมได้
พิพากษายืน