คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ลูกจ้างผู้มีหน้าที่ซ่อมรถยนต์ได้นำรถยนต์ของนายจ้างออกขับทดลองเครื่อง เป็นการกระทำในทางการที่จ้าง เมื่อเกิดการละเมิดขึ้น นายจ้างก็ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งกระละเมิดนั้นด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัยหนักงานของบริษัท เมิร์ค ชาร์ฟ แอนด์ โดม (ประเทศไทย) จำกัด จำเลยเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกน้ำมันเลขทะเบียน ก.ท.ก. ๗๑๘๐ และเป็นนายจ้างนายหนูเคน แสนสุข คนขับรถยนต์คันนี้นายหนูเคนได้ขับรถคันดังกล่าวตามหน้าที่และทางการที่จ้าง ด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้ายรถยนต์สองแถวที่จอดอยู่และแฉลบไปชนรถยนต์เก๋งเลขทะเบียน ก.ท.ข.๐๘๔๑ เสียหายและผู้นั่งมาในรถนั้นซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเมิร์ค ชาร์ฟ แอนด์โดม (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า นายหนูเคนไม่ได้เป็นลูกจ้างจำเลย ไม่มีหน้าที่ขับรถยนต์คันที่กล่าวในฟ้อง นายหนูเคนมิได้ขับรถด้วยความประมาท ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยเฉพาะในข้อที่ว่านายหนูเคน แสนสุขลูกจ้างของจำเลยกระทำการละเมิดเป็นไปทางการที่จ้างหรือไม่
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า การขับรถยนต์เพื่อตรวจสอบว่าการซ่อมเครื่องยนต์เรียบร้อยหรือไม่นั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ช่างซ่อมรถยนต์ ดังนั้น การที่นายหนูเคนนำรถยนต์บรรทุกน้ำมันออกไปขับทดลองเครื่อง จึงเป็นการกระทำตามในทางการที่จ้าง เมื่อเกิดการละเมิดขึ้น จำเลยผู้เป็นนายจ้างก็ต้องร่วมรับผิดด้วย
พิพากษายืน

Share