แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังปรากฏข้อสงสัยพิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตายแต่จำเลยได้ใช้กำลังกายชกต่อยเตะผู้ตายจนถึงแก่ความตายพิพากษากลับเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ดังนี้ข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามมาตรา 288 จึงเป็นอันศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในข้อหาดังกล่าวไม่ได้ต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำรุนแรงไปเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายอันเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษเบากว่าที่โจทก์ฟ้องศาลย่อมลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กำลังชกต่อยทำร้ายนางวันวิสาข์ภริยาของจำเลยจนถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังปรากฏข้อสงสัย พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย แต่จำเลยได้ใช้กำลังกายชกต่อยแตะผู้ตายจนถึงแก่ความตาย พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ดังนี้ ข้อหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามมาตรา 288 จึงเป็นอันศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงโจทก์ฎีกาว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายและใช้เชือกรัดคอโดยมีเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
และวินิจฉัยต่อไปว่า ข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมิได้มีเจตนาฆ่าแต่ทำรุนแรงไปเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไม่มีเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษเบากว่าที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษ ศาลย่อมลงโทษจำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน