แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 6 ธันวาคม 2485 เวลากลางคืนจวนสว่างพยานโจทเบิกความว่าเหตุเกิดวันแรม 13 ค่ำเดือน 12 พ.ส.2485 เวลากลางคืนตอนเช้ามืดจวนสว่าง ไม่ถือว่าฟ้องผิดวัน (หมายเหตุ วันที่ 6 ธันวาคมตรงกับวันแรม 14 ค่ำ)
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า วันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๘๕ เวลากลางคืนจวนสว่าง จำเลยไช้ปืนยิงนายไหย่ ๑ นัด หากกะสุนปืนไม่ถูกนายไหย่ ๆ จึงไม่ตาย และตามวันเวลาดังกล่าวจำเลยมีและไช้ปืนยิงนายไหย่โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
สาลชั้นต้นพิพากสายกฟ้องไนข้อพยายามค่าคน แต่ลงโทสถานมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต
สาลอุธรน์เห็นว่า โจทฟ้องผิดวันคือข้อเท็ดจิงที่ปรากดไนการพิจารนาต่างกับที่กล่าวไนฟ้อง ยกฟ้องทั้งสองถาน
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า ข้อเท็ดจิงไม่ต่างกับฟ้อง และมิไช่เนปเรื่องฟ้องผิดวัน หากแต่เปนปัญหาว่าเกิดเหตุเวลาไดเท่านั้น เพราะเหตุว่าตามฟ้องโจทที่ระบุว่าเหตุเกิดวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๘๕ เวลากลางคืนตอนเช้ามืดจวนสว่างนั้น โจทกล่าวตามแบบหย่างของวิธีนับทางราชการ คือหมายความว่า เวลากลางคืนต่อกลางวัน (เช้ามืดจวนส่าง) ของวันที่ ๖ ธันวาคม ส่วนที่พยานเบิกความว่าเหตุเกิดวันแรม ๑๓ ค่ำเดือน ๑๒ พ.ส.๒๔๘๕ เวลากลางคืนตอนเช้ามือจวนสว่างนั้น ก็คือเวลาหย่างที่เข้าไจกันไนหมู่ราสดรสามัญชนถือเปนเวลากลางคืนของวันแรม ๑๓ ค่ำซึ่งนับแต่พระอาทิจตกไนวันนั้นเรื่อยไหจนถึงพระอาทิจขึ้นไนวันต่อมาคือแรม ๑๔ ค่ำ ฉะนั้นเวลาเกิดเหตุที่พยานเบิกความจึงตรงกับเวลากลางคืนตอนเช้ามืดจวนสว่างของวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๔๘๕ ดังที่โจทกล่าวไนฟ้องนั้นแล้ว ข้อหาว่าจำเลยพยายามค่าคนไม่เชื่อพยานโจท จึงพิพากสาแก้คำพิพากสาสาลอุธรน์ ไห้บังคับคดีตามคำพิพากสาสาลชั้นต้น