แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยสลักหลังเช็คลงวันที่ล่วงหน้าของผู้อื่นเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกซึ่งมีข้อตกลงกันด้วยว่าจำเลยจะต้องชำระเงินให้โจทก์เป็นงวด ๆ ถ้าไม่ชำระงวดใดให้ถือว่าจำเลยหมดสิทธิอาศัยในอาคาร เมื่อเช็คนั้นถึงกำหนดโจทก์รับเงินไม่ได้ ก็ต้องถือว่าจำเลยผิดสัญญาและสัญญานั้นย่อมเลิกกันไปตามที่ระบุไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระเงินตามเช็คดังกล่าว คงมีสิทธิแต่เพียงไม่ให้จำเลยอาศัยในอาคารและไม่ต้องคืนเงินงวดก่อน ๆ เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสลักหลังเช็คของผู้อื่นโอนให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ โจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ จึงขอให้ศาลบังคับให้ชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยชำระหนี้ค่าเซ้งตึกงวดที่ 3 ให้กับโจทก์ตามหนังสือสัญญาข้อ 3 ซึ่งมีความว่า หากงวดใดจำเลยไม่ชำระก็ให้ถือว่าหมดสิทธิอาศัยหรือหมดพันธะต่อกัน ดังนั้น เมื่อโจทก์รับเงินไม่ได้ก็เป็นอันเลิกสัญญาต่อกัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามเช็คอีก ทั้งจำเลยก็ไม่เคยเข้าไปอยู่ในตึกที่เซ้งแต่อย่างใด และคดีนี้จำเลยเป็นหญิงมีสามี สามีจำเลยไม่รู้เห็นยินยอมและได้บอกล้างนิติกรรมแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยลงชื่อสลักหลังเช็คมอบให้โจทก์ย่อมเป็นลูกหนี้ตามเช็คนั้น โจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยไม่เข้าอยู่เองและจำเลยไม่ชำระเงินตามงวดจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา แม้สามีจะได้บอกล้างโมฆียะกรรม จำเลยผู้เป็นภรรยาก็ยังต้องรับผิดจะยกขึ้นต่อสู้โจทก์ไม่ได้ ให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามสัญญาได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า หากจำเลยขาดชำระงวดใดให้ถือว่าไม่มีพันธะต่อกันคือสัญญาเป็นอันระงับไป เมื่อจำเลยมอบเช็คชำระหนี้งวดที่ 3 แล้วโจทก์รับเงินไม่ได้ จำเลยจึงผิดสัญญา สัญญาก็ระงับไป โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินตามเช็คอีก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยสลักหลังเช็คพิพาทมอบให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ตามสัญญาว่าจ้างเหมาอาคาร ซึ่งจำเลยนำสืบว่าเป็นสัญญาซื้อสิทธิการเช่าตึกจากโจทก์ ตามสัญญาระบุว่า จำเลยชำระเงินเป็น 3 งวด ๆ ที่ 1 ชำระเป็นเช็คเงิน 20,000 บาท ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2512, งวดที่ 2 ชำระเป็นเช็คเงิน 10,000 บาท ลงวันที่ 25 กันยายน 2512, งวดที่ 3 ชำระเป็นเช็คเงิน 11,000 บาท ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2512 เช็คพิพาทคือเช็คชำระหนี้งวดที่ 3 ในสัญญาข้อ 3 มีความว่า หากจำเลยขาดชำระเงินงวดใดให้ถือว่าจำเลยหมดสิทธิอาศัยในอาคารดังกล่าว และถือว่าไม่มีพันธะประการใดต่อกันอีก และเงินที่ชำระไว้แล้วจะเรียกคืนไม่ได้ เมื่อเช็ค 2 ฉบับแรกถึงกำหนดโจทก์ชำระเงินไม่ได้จึงฟ้องเรียกเงินปรากฏตามสำนวนคดีของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 6493/2512 และต่อมาถึงกำหนดชำระงวดที่ 3 โจทก์ก็รับเงินตามเช็คไม่ได้อีก จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้สลักหลังเช็คมอบให้โจทก์ไว้ล่วงหน้าในวันทำสัญญา ซึ่งในสัญญาข้อ 3 นั้นมีความหมายว่า จำเลยมีสิทธิที่จะไม่ชำระเงินงวดที่ 3 นี้ได้โดยจำเลยยอมเสียสิทธิอาศัยในอาคารนั้น ทั้งข้อเท็จจริงก็ได้ความว่า ตั้งแต่ทำสัญญามาจำเลยยังมิได้ใช้สิทธิอาศัยในอาคารดังกล่าวเลย ดังนั้นเมื่อโจทก์รับเงินตามเช็คไม่ได้จึงถือว่าจำเลยผิดสัญญา ไม่ชำระเงินงวดที่ 3 สัญญาย่อมเลิกกันโจทก์คงมีสิทธิเพียงแต่ไม่ให้จำเลยอาศัยในอาคาร และไม่ต้องคืนเงินงวดก่อน ๆ โจทก์หามีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระเงินตามเช็คดังกล่าวไม่
พิพากษายืน