คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1941/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้ ม. เป็นการชำระหนี้ค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อจาก ม. ม. โอนเช็คให้จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ทราบว่าจำเลยที่ 1 สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเพราะ ม. ผิดสัญญาซื้อขาย แต่เพื่อที่จะให้ได้เงินตามเช็ค จำเลยที่ 2 จึงโอนเช็คให้โจทก์โดยอ้างว่าเป็นการชำระราคาที่ดินที่ซื้อจากโจทก์ ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังนี้การโอนเช็คระหว่างจำเลยที่ 2 กับโจทก์เป็นการโอนโดยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยที่ 1

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค 4 ฉบับซึ่งจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินฉบับละ 60,000 บาท จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังแล้วส่งมอบให้โจทก์เพื่อชำระราคาที่ดินที่จำเลยที่ 2 ซื้อไปจากโจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 240,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทให้นายมานพและจำเลยที่ 2 เพื่อเป็นประกันการซื้อเครื่องกรองน้ำซึ่งเป็นการค้าที่นายมานพกับจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนกัน นายมานพผิดสัญญาไม่ส่งเครื่องกรองน้ำตามกำหนด จำเลยที่ 1 จึงสั่งธนาคารให้ระงับการจ่ายเงินตามเช็คเหล่านั้น จำเลยที่ 2 โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉล จำเลยที่ 1 โดยอ้างว่าเป็นการชำระค่าที่ดินซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ให้การว่า ได้รับโอนเช็คพิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนและได้โอนต่อไปให้โจทก์เป็นการชำระค่าที่ดินซึ่งจำเลยที่ 2 ซื้อจากโจทก์ จำเลยที่ 2ไม่ต้องรับผิด โจทก์ชอบที่จะฟ้องไล่เบี้ยเอาจากจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่าย ขอให้พิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 240,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัดแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ 1

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาททั้ง 4 ฉบับให้นายมานพเกี่ยวกับเรื่องการซื้อเครื่องกรองน้ำซึ่งจำเลยที่ 2 มีส่วนร่วมรู้เห็นด้วย เมื่อจำเลยที่ 2รู้ว่านายมานพผิดสัญญาไม่ส่งมอบเครื่องกรองน้ำให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ได้สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้ว จำเลยที่ 2 จึงหาทางเพื่อให้ได้เงินตามเช็คนั้น โดยโอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยอ้างว่าเพื่อชำระหนี้ค่าที่ดินซึ่งไม่เป็นความจริงและศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 2 โอนเช็คซึ่งทราบดีแล้วว่าจำเลยที่ 1สั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินเพราะนายมานพผิดสัญญาให้โจทก์ โดยอ้างว่าเพื่อชำระหนี้ค่าที่ดินอันไม่เป็นความจริง จึงเป็นการโอนโดยจำเลยที่ 2 กับโจทก์คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share