แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกค่าประกันภัยรถยนต์จากผู้รับประกันภัยตามสัญญาประกันภัยนั้นเป็นการเรียกร้องในมูลหนี้ เกิดจากสัญญาประกันภัยระหว่างผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยเนื่องจากรถที่เอาประกันไว้ถูกชน ไม่มีประเด็นว่าการชนนั้น เป็นความผิดของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ทำละเมิด และผู้ทำละเมิดจะเป็นลูกจ้างบุคคลที่ 3 จริงหรือไม่ ก็เป็นข้อที่บุคคลที่ 3 อาจยกขึ้นต่อสู้ได้ กรณีไม่เข้า ป.วิ.พ. มาตรา 57 (3) จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันจึงหาอาจยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมได้ไม่ การที่ให้บุคคลที่ 3 เข้ามาเป็นจำเลยร่วมนั้น นอกจากไม่มีประเด็นความรับผิดไปถึงในเรื่องที่ฟ้องกันนี้ ยังทำให้การพิจารณายุ่งยากไม่สดวกอีกด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกค่าประกันภัย รถยนต์ของโจทก์จากจำเลย จำนวนเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์มีสิทธิจะได้รับชดใช้เพียง ๘,๐๐๐ บาทและจำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกนาย ที.อี.บี.กรีนเข้ามาเป็นจำเลยร่วมโดยอ้างว่าการละเมิดเกิดขึ้นด้วย ความประมาทเลินเล่อกระกระทำผิดต่อกฎหมายของนายสันตัวแทนของนาย ที.อี.บี . กรีน หากจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยมีสิทธิไล่เบี้ยเอากับนาย ที.อี.บี.กรีน ได้
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยอ้างว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเรียกนาย ที.อี.บี.กรีน เข้ามาเป็นจำเลยในคดีนี้
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดตามสัญญาประกันภัยในวงเงินที่จำเลยได้เป็นผู้รับประกันรถยนต์ของโจทก์ไว้ อันเป็นการเรียกร้องในมูลหนี้เกิดจากสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์จำเลย นาย ที.อี.บี.กรีน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เรื่องของคดีนี้มีเพียงว่า รถของโจทก์ที่เอาประกันภัย ไว้กับจำเลยถูกชน ไม่มีประเด็นว่า การชนนั้นเป็นความผิดของโจทก์หรือนายสันผู้ขับรถ หากนายสันเป็นฝ่ายผิด จำเลยอาจเรียกร้องเอาค่าทดแทนจากนายสันได้ก็จริง แต่นาย ที.อี.บี.กรีน เป็นบุคคลที่ ๓ จะเป็นนายจ้างนายสันจริงหรือไม่ก็เป็นข้อที่ นาย ที.อี.บี.กรีนอาจยกขึ้นต่อสู้ได้ ยิ่งกว่านั้น ถ้าการชนเป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยก็ไม่มีทางจะเรียกร้องเอากับนายที.อี.บี.กรีน กรณีไม่เข้า ป.วิ.พ. มาตรา ๕๗ (๓) การที่จะให้นาย ที.อี.บี.กรีนเข้ามาเป็นจำเลยร่วมนั้น นอกจากไม่มีประเด็นความรับผิดไปถึงในเรื่องที่ฟ้องกันนี้ ยังทำให้การพิจารณายุ่งยากไม่สดวกอีกด้วย