คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งประทับฟ้องคดีอาญาไว้แล้ว สั่งนัดชี้สองสถานถึงวันนัด โจทก์ไม่มา ไม่ปรากฏเหตุขัดข้องฝ่ายจำเลยมาศาลศาลจึงสั่งเลื่อนคดีไป 15 วันต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้พิเคราะห์สั่งให้เลื่อนคดีไปแล้ว จะให้ยกฟ้องโจทก์ไม่ได้ดังนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวนจำเลยจะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนั้นก่อนศาลชี้ขาดตัดสินคดีไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ซึ่งเป็นราษฎร ฟ้องคดีอาญาเอง ขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ หมิ่นประมาท

ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลนัดชี้สองสถาน ครั้นถึงกำหนดนัดโจทก์ไม่มาศาลไม่ทราบเหตุขัดข้อง ส่วนจำเลยมาศาลศาลสั่งให้เลื่อนคดีไป 15 วัน

ต่อมา โจทก์ยื่นคำร้องแสดงเหตุขัดข้องไม่ได้มาศาล และขอดำเนินคดีต่อไปฝ่ายจำเลยยื่นคำร้อง ขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ศาลชั้นต้นสั่งว่าศาลได้สั่งให้เลื่อนคดีไปแล้วจะยกฟ้องโจทก์ไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่าจะอุทธรณ์คำสั่งในกรณีนี้ไม่ได้ ให้ยก จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์สั่งว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา อุทธรณ์ไม่ได้ ให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จำเลยจะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งก่อนศาลชี้ขาดตัดสินคดีไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196

จึงพิพากษายืน

Share