แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์เป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลนั้นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาคำร้องนั้นแล้วมีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ คำสั่งนี้ให้เป็นที่สุดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 198 ทวิ วรรคสาม ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยทำนองว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์ส่งสำเนาคำฟ้องและสำเนาคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องให้แก่ พ. จะไม่ชอบก็เป็นเพียงเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 หยิบยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อจะรับอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่เท่านั้น และผลที่สุดศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นที่สุด
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 91, 350 ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้เรียกนางพวงเพชร เข้ามาเป็นจำเลยที่ 5 จำเลยทั้งสี่คัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องให้แก่นางพวงเพชรว่าจะคัดค้านหรือไม่ ให้โจทก์นำส่งภายใน 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ก่อนและขอให้ยกเลิกคำสั่งที่ให้โจทก์นำส่งสำเนาคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้โจทก์ดำเนินการตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 29 เมษายน 2556 โดยเคร่งครัด โดยแนบสำเนาคำฟ้องให้บุคคลภายนอกด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลทำรายงานว่า โจทก์ไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่ศาลมีคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าโจทก์ทิ้งคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลยังไม่ได้มีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้แก้ฟ้อง แต่ศาลมีอำนาจฟังความทุกฝ่ายก่อนที่จะมีคำสั่ง แม้จะเป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้โอกาสในการชี้แจงก่อนที่ต้องแต่งทนายเข้าแก้ต่าง เมื่อทนายโจทก์ไม่นำส่งสำเนาคำร้องตามคำสั่งศาล ศาลสั่งทิ้งคำร้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น โดยให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์เป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลนั้นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาคำร้องนั้น แล้วมีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นหรือมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ คำสั่งนี้ให้เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคสาม ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 4 คดีนี้แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยทำนองว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์นำส่งสำเนาคำฟ้องและสำเนาคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องให้แก่นางพวงเพชรจะไม่ชอบ ก็เป็นเพียงเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 หยิบยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อจะรับอุทธรณ์ของโจทก์หรือไม่เท่านั้น และผลที่สุดศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นที่สุดตามบทบัญญัติดังกล่าว โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาได้อีก แม้ศาลชั้นต้นรับฎีกาของโจทก์ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาของโจทก์