คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวง ก. ผู้เสียหายว่าจำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จาก ก. ผู้เสียหาย โดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน2513 ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวงจึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริมราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตนซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจากก.ผู้เสียหายมาแต่แรก โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่ ก.ผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท โดยจำเลยบอกแก่ ก.ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของ ล.มาชำระหนี้ให้แก่ ก.ผู้เสียหายฯ ตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่า ก.ผู้เสียหายได้ตกลงขายกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาทให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้ ก.ผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายในตอนท้ายว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัดสำนักงานใหญ่ มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลย เพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงิน ซึ่ง ก.ผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงรับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงบรรยายฟ้องให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้นกรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้วจำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่ง หาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงด้วยการกล่าวเท็จหลอกลวงนางกาญจนาผู้เสียหายจะซื้อสินค้าจากผู้เสียหาย ผู้เสียหายได้มอบสินค้าให้ไปจำเลยได้ออกเช็คชำระหนี้ดังกล่าวแก่ผู้เสียหายแต่เช็คขึ้นเงินไม่ได้ และจำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ แต่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินโดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

นางกาญจนาผู้เสียหายได้เข้าเป็นโจทก์ร่วม

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 และมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ลงโทษจำคุก

โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม2513 เวลากลางวัน จำเลยมีเจตนาฉ้อโกงและโดยทุจริตได้บังอาจกล่าววาจาอันเป็นเท็จหลอกลวงนางกาญจนา ตันธุวนิตย์ ผู้เสียหายว่า จำเลยประสงค์จะซื้อกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท จากนางกาญจนาผู้เสียหาย โดยผัดชำระราคาในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 นางกาญจนา ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่จำเลยกล่าวหลอกลวง ตามวันเวลาที่กล่าวข้างต้นจึงได้มอบกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา 500,000 บาท ให้จำเลยรับไปเป็นประโยชน์ของตน ซึ่งความจริงจำเลยมีเจตนาฉ้อโกงกระดาษกล่อง 614 ริมไปจากนางกาญจนา ผู้เสียหายมาแต่แรกแล้ว โดยจำเลยเจตนาจะไม่ชำระเงินให้แก่นางกาญจนาผู้เสียหายเลย ดังนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2513 เวลากลางวัน จำเลยจึงได้นำเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่ ฉบับเลขที่ 082013 ลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2514 สั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000บาท โดยจำเลยบอกแก่นางกาญจนา ผู้เสียหายว่าเป็นเช็คของนายลิ้มฮั่วซินมาชำระหนี้ให้แก่นางกาญจนาผู้เสียหายฯ เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องแสดงว่านางกาญจนาผู้เสียหายได้ตกลงขายกระดาษกล่องจำนวน 614 ริม ราคา500,000 บาทให้จำเลย และจำเลยขอผัดชำระราคาค่ากระดาษกล่อง ต่อมาจำเลยได้นำเช็คมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องให้แก่นางกาญจนาผู้เสียหายตามที่ขอผัดไว้จริง แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องในตอนท้ายว่า จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเช็คฉบับนี้ขึ้นเงินได้ ซึ่งความจริงเช็คที่กล่าวเป็นเช็คที่ธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่ มอบให้แก่จำเลย ซึ่งได้เปิดบัญชีเป็นลูกค้าของธนาคาร จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าเช็คฉบับที่กล่าวไม่มีทางขึ้นเงินได้เลยเพราะจำเลยไม่ได้เป็นผู้สั่งจ่ายเงินซึ่งนางกาญจนาผู้เสียหายหลงเชื่อจำเลยจึงได้รับเช็คไว้ ก็เป็นเพียงบรรยายให้เห็นว่าเช็คที่จำเลยนำมาชำระราคาค่ากระดาษกล่องไม่สามารถขึ้นเงินจากธนาคารได้เท่านั้น กรณีเป็นเรื่องโจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระดาษกล่องกันแล้วจำเลยไม่ชำระราคา อันเป็นการผิดสัญญาในทางแพ่งหาใช่เป็นคำฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงไม่

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

Share