คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7578/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองแบ่งความรับผิดในหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยที่โจทก์รับช่วงสิทธิจากธนาคารมาคนละ 146,455 บาท ความรับผิดของจำเลยทั้งสองที่มีต่อโจทก์จึงสามารถแยกต่างหากจากกันได้ หนี้ดังกล่าวมิใช่หนี้ร่วมการคิดทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงต้องแยกตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์เรียกร้องเอาแก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นรายบุคคล หาใช่คำนวณรวมกันเป็นรายเดียวเช่นลูกหนี้ร่วมไม่ เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาของจำเลยทั้งสองแยกคำนวณต่างหากจากกันไม่เกินรายละสองแสนบาทแล้ว ก็ห้ามมิให้จำเลยทั้งสองฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้
ในระหว่างลูกหนี้ร่วมกันทั้งหลายนั้น ต่างคนต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 296ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ย่อมไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยแล้ว พิพากษาให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5)ประกอบมาตรา 246, 247

Share