คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรรมการตรวจฎีกาโจทย์ อุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน จำเลยสมคบกันขุดอุโมงเข้าไปในตึก ลักเอาไหมของนายยงหงีประมาณหนัก ๑ หาบ ราคา ๖๑๑ บาท วันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เจ้าพนักงานจับไหมของกลางได้ที่เรือนนายจันทบาลหนัก ๒๓ ชั่ง ได้ที่เรือนนายสีสมุด ๒๔ ชั่ง โดยนายจันทบาลขายให้นายคำมี ๆ ขายให้นายสีสมุดขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๓-๒๙๔ ฯ
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธข้อหา นายจันทบาลแก้ว่าไหมของกลางนั้นเปนของนายจันทบาลซื้อมาโดยบริสุทธิ นายคำมีแก้ว่าได้ซื้อไหมของกลางนั้นจากนายจันทบาล แลได้ขายให้นายสีสมุดไป ฯ
ศาลจังหวัดมหาสารคามพิจารณาคดีแล้ว ฟังคำพยานโจทย์ว่า พยานจำไหมของกลางที่จับได้จากนายจันทบาลแลได้จากนายสีสมุดว่าเปนไหมของนายยงหงีที่ผู้ร้ายลักไป จึงพิพากษาว่านายจันทบาลคนเดียวมีความผิดฐานรับของโจรตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๒๑ ให้จำคุกนายจันทบาลจำเลยมีกำหนด ๑ ปี ๖ เดือน จำเลยนอกนั้นไม่มีความผิดให้ปล่อยตัวไป ฯ
นายจันทบาลอุทธรณ ฯ
ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษมีความสงสัยคำพยานโจทย์ที่ว่าจำไหมของกลางได้ เพราะไหมชนิดของกลางนี้ของคนอื่นก็มีเหมือนกัน ทั้งนายจันทบาลจำเลยก็เปนผู้ค้าขายไหมคนหนึ่งพยานของนายจันทบาลก็เบิกความสมว่าเปนไหมของนายจันทบาลซื้อมา จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลเดิม ให้ยกฟ้องของโจทย์ ปล่อยนายจันทบาลจำเลยไป ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยลักไหมของนายยงหงี ได้ความว่านายจันทบาลมีไหมชนิดเดียวกับของนายยงหงีที่ผู้ร้ายลักไป นายจันทบาลจำเลยก็เปนผู้ค้าขายไหมเหมือนกัน ส่วนเส้นไหมนั้นก็เปนธรรมดา หามีตำหนิเครื่องหมายอย่างไรไม่ นายเทศพยานโจทย์ว่านายยงหงีเคยจ้างให้พยานฟั้นแลผูกไหม พยานจำไหมของกลางได้ว่าเปนฝีมือของพยานฟั้น นายเฮียมพยานจำเลยก็ว่าพยานเคยรับจ้างนายจันทบาลฟั้นแลผูกไหม วิธีฟั้นแลผูกไหมก็ทำอย่างเดียวดังที่พยานโจทย์อธิบายไว้ คดียังมีเหตุสงสัยจะฟังเปนแน่ไม่ได้ว่า ไหมของกลางนั้นเปนไหมของนายยงหงี ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์ปล่อยจำเลยไปนั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของโจทย์เสีย ฯ
วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓

Share