คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อตกลงซึ่งโจทก์กับจำเลยบางคนได้ตกลงกันและผูกพันถึงจำเลยบางคนที่ไม่มาศาล และไม่ได้ทำความตกลงด้วย แม้ภายหลังจำเลยที่ไม่มาศาลได้มายอมรับตามข้อตกลงนั้น แต่จำเลยอื่นที่ตกลงไว้ก่อนได้ขอถอนข้อตกลงเสียก่อนนั้นแล้ว ดังนี้ ศาลจะพิพากษาคดีไปตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เพราะได้มีการขอถอนเสียก่อนที่ข้อตกลงนั้นจะใช้เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์.

ย่อยาว

ได้ความว่า โจทก์กับจำเลยที่ ๑-๒ ได้ตกลงกันหลายประการตามที่ศาลชั้นต้นจดรายงานไว้ ซึ่งข้อตกลงบางข้อผูกพันถึงจำเลยที่ ๓ ด้วย และในวันตกลงกันนั้น จำเลยที่ ๓ ไม่มาศาล ศาลให้เลื่อนคดีไปรอจำเลยที่ ๓ มาทำยอม แต่ก่อนที่จำเลยที่ ๓ มาตกลงยอมด้วย จำเลยที่ ๑-๒ ได้ขอถอนข้อตกลงที่ศาลจดไว้ทั้งหมด ศาลสั่งว่ายังมิได้พิพากษาตามยอม ควรพูดกันดูใหม่ ต่อมาจำเลยที่ ๓ มาแถลงต่อศาลยอมรับตามข้อตกลงดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่า ข้อตกลงนั้นชอบด้วยลักษณะสัญญาปราณีประนอมยอมความแล้ว จำเลยที่ ๑-๒ จะขอถอนมิได้ พิพากษายืนให้บังคับคดีตามข้อตกลงนั้น แต่มีความเห็นแย้งว่า ข้อตกลงยังไม่เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์ จำเลยที่ ๑-๒ มีสิทธิถอนได้
จำเลยที่ ๑-๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาปราณีประนอมยอมความในคดีนี้จะสมบูรณ์ได้ ต้องตกลงยินยอมพร้อมกันนั้น ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑-๒ ก่อนที่จำเลยที่ ๓ มาร่วมตกลงยอมด้วย จึงยังใช้เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์ไม่ได้ คงมีผลแต่เพียงเป็นข้อตกลงไว้รอการทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกันเมื่อจำเลยที่ ๓ มายินยอมตกลงด้วย แต่เมื่อจำเลยที่ ๑-๒ ได้ขอถอนเสียก่อนที่จำเลยที่ ๓ มาตกลงด้วยแล้ว ศาลจึงพิพากษาคดีให้เป็นไปตามข้อตกลงที่จดไว้เดิมไม่ได้ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป

Share