แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการขายทอดตลาดโดยปลอดจำนองนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีควรตั้งราคาขายขั้นต่ำเท่ากับวงเงินจำนองพร้อมค่าอุปกรณ์ ถ้าจะขายราคาต่ำกว่านั้นควรให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำนองยินยอมหรือมีเหตุผลพิเศษเพื่อประโยชน์ของคู่ความ เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์จำนองให้ผู้ซื้อทรัพย์ ไปในราคาเพียง 205,000 บาท ต่ำกว่าวงเงินจำนองเมื่อ 5 ปีก่อน ถึง45,000 บาท ทั้งที่เพิ่งเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรก และไม่ ปรากฏเหตุผลพิเศษที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องรีบด่วนขายไปใน ราคานี้ และได้ความต่อมาว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาด ใหม่มีผู้ซื้อได้โดยให้ราคาสูงสุดถึง 360,000 บาท ซึ่งสูงกว่า การ ขายทอดตลาดครั้งพิพาทถึง 155,000 บาท ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดให้ผู้ซื้อทรัพย์ไปนั้น ต่ำ เกิน ไปมาก ไม่ใช่ราคาที่พอสมควร ส่อให้เห็นวี่แวว อันไม่สุจริต ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดฝ่าฝืนบทบัญญัติ ว่าด้วย การ บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง โจทก์จึงชอบ ที่จะขอให้ยกเลิกเสียได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด หากบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ต่อมาจำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างทรัพย์จำนองดังกล่าวโดยประเมินราคาทรัพย์ไว้ 204,000 บาท ในวันนัดขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีได้เคาะได้ขายให้แก่ร้อยตำรวจเอกเบญจพลผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน205,000 บาท
โจทก์ยื่นคำร้องว่า ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์นั้นต่ำกว่าราคาที่เป็นจริงมากและไม่พอชำระหนี้แก่โจทก์ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการขายทอดตลาด และให้ขายทอดตลาดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์นั้นสูงกว่าราคาประเมินขณะที่ยึดทรัพย์ และเป็นราคาที่พอสมควรแล้ว การขายทอดตลาดได้กระทำไปโดยชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยใหม่
ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทรัพย์พิพาทติดจำนองแก่โจทก์โดยจดทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2526 ในวงเงิน 250,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยขณะยึดทรัพย์เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาทรัพย์ไว้ 204,000 บาท ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลซื้อจากการขายทอดตลาดได้ในราคา 205,000 บาท ปัญหามีว่า มีเหตุยกเลิกการขายทอดตลาดตามคำร้องของโจทก์หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทโดยปลอดจำนองนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีควรตั้งราคาขายขั้นต่ำเท่ากับวงเงินจำนองพร้อมค่าอุปกรณ์ ถ้าจะขายราคาต่ำกว่านั้นควรให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำนองยินยอม หรือมีเหตุผลพิเศษเพื่อประโยชน์ของคู่ความแต่การขายทอดตลาดครั้งนี้กลับปรากฏว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดให้ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคารเพียง 205,000 บาท ต่ำกว่าวงเงินจำนองเมื่อ 5 ปีก่อน ถึง45,000 บาท ทั้งที่เพิ่งเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรก และไม่ปรากฏเหตุผลพิเศษที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องรีบด่วนขายไปในราคานี้ และได้ความต่อมาว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดนี้แล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดใหม่ มีผู้ซื้อได้โดยให้ราคาสูงสุดถึง 360,000 บาท ซึ่งได้ราคาสูงกว่าการขายทอดตลาดครั้งพิพาทถึง 155,000 บาท ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดให้ผู้ซื้อทรัพย์ไปนั้นต่ำเกินไปมาก ไม่ใช่ราคาที่พอสมควรส่อให้เห็นวี่แววอันไม่สุจริต ถือได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง โจทก์จึงชอบที่จะขอให้ยกเลิกเสียได้
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น