แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่นด้วยเหตุนี้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ จึงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 77
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ประเมินภาษีแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้เป็นสินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ เป็นเงินรวม ๑๙,๐๖๕.๙๓ บาท โจทก์ได้ชำระแก่จำเลยแล้วแต่เห็นว่าจำเลยเรียกเก็บภาษีไม่ถูกต้อง จึงขอให้ศาลพิพากษาว่า แป้งข้าวโพดผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้มิใช่สินค้าสำเร็จรูปตามมาตรา ๗๗ แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องเสียภาษีการค้า เงินเพิ่มและภาษีบำรุงเทศบาล รวม ๑๙,๐๖๕.๙๓ บาท ตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยให้ยำคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยและยกเลิกการประเมินภาษีการค้าให้จำเลยคืนเงิน ๑๙,๐๖๕.๙๓ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีตั้งแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๐๑ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้ง ๕ ให้การว่า แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้เป็นสินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยถูกต้องแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๓, ๔ และ ๕ ไม่ชอบด้วยกฎหมายพิพากษาให้ยกเลิกเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินจำเลยที่ ๒ ให้จำเลยที่ ๑ คืนเงิน ๑๙,๐๖๕.๙๓ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี ในเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๑๐ เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยร่วมกันเสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ ๔๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าทนาย ๒๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้วคดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้เป็นสินค้าสำเร็จรูปอันจะต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ ๕ของรายรับตามอัตราประเภทการค้า ๑ ชนิด ๙ (ก) ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ หรือไม่
ได้พิเคราะห์บทกฎหมายในเรื่องนี้แล้ว ประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗บัญญัติว่าสินค้าสำเร็จรูปคือสินค้าซึ่งตามสภาพอาจอุปโภค บริโภคได้โดยไม่จำต้องเปลี่ยนหรือดัดแปลงหรือนำไปผสมกับสิ่งอื่น ฉะนั้น เมื่อพิจารณาตามบทวิเคราะห์ศัพท์นี้แล้วสินค้าสำเร็จรูปย่อมหมายความถึงสิ่งใด ๆ ก็ตาม ที่อาจใช้อุปโภคหรือบริโภคได้ทันทีโดยไม่ต้องเอาของสิ่งนั้นไปปรุงแต่งเปลี่ยนแปลงหรือผสมกับสิ่งใดอีก เช่นเป็นของกินก็อาจกินได้ทันที หรือถ้าเป็นของใช้ก็อาจใช้ได้ทันที แต่การพิจารณาว่าสิ่งใดอาจใช้สอยได้ทันทีหรือไม่จำต้องพิจารณาจากการใช้ในสภาพปกติ เพราะวัตถุไม่สำเร็จรูปก็อาจนำมาใช้ได้ทันทีเช่นเดียวกับวัตถุสำเร็จรูป เช่นแป้งสาลีอาจใช้ให้ไก่กินหรือใช้เป็นอุปกรณ์เช่นใช้โรยขนมหรือใช้ในการทำขนมไม่ให้ติดมือหรือภาชนะหรือใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารอย่างอื่นต่อไปก็ได้ แต่นั้นมิใช่เป็นการใช้ในสภาพของวัตถุสำเร็จรูป หากเป็นการใช้ในสภาพของวัตถุไม่สำเร็จรูปหรือวัตถุดิบ คือต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือผสมกับสิ่งอื่นเสียก่อน จึงจะกลายสภาพเป็นวัตถุสำเร็จรูปขึ้นมาเช่นเดียวกันแป้งข้าวโพดโดยสภาพแล้วกินไม่ได้ แต่เมื่อต้องการจะทำขนม ต้องนำไปผสมกับของสิ่งอื่นแล้วทำให้สุกเสียก่อน จึงจะใช้กินได้ ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ก็เหมือนกัน โดยปกติไม่ใช้กิน แต่ใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมเค๊กหรือขนมปังเพื่อให้ขนมนั้น ๆ ฟูและนิ่มขึ้นเท่านั้น จึงเห็นได้ชัดว่าการใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่นมิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่น ด้วยเหตุนี้แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ จึงมิใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากรมาตรา ๗๗ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย