แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายถือมีดยาว 1 คืบเข้าไปจะแทงจำเลย ๆ จึงใช้พร้ายาวขนาดแขนแกว่งป้องกันไว้แล้วถอยหลังไปพลางด้วย พร้าที่แกว่างนั้นถูกผู้ตายมีบาดเจ็บแล้วภายหลังตายเพราะบาดแผลนั้น ดังนี้ย่อมถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรได้รับอาญาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ ตามมาตรา ๒๔๙ ,๕๓ ให้จำคุก ๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงอาญาแก่จำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๐ ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา คงฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นว่า ผู้ตายถือมีดยาว ๑ คืบ เข้าไปจะแทงจำเลย ๆ จึงใช้พร้ายาวขนาดแขนแกว่งป้องกันไว้ และระหว่างนั้นก็ถอยหลังไปพลางด้วย แล้วพร้าที่จำเลยแกว่งป้องกันถูกผู้ตายบาดเจ็บ และภายหลังถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลนั้น จะว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุได้อย่างไร จะให้วิ่งหนีหรือก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย จะใช้อาวุธอื่นที่ขนาดทัดเทียมกัน ก็จะหาได้ที่ไหนในเวลาฉุกเฉินเช่นนั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน