คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นฎีกาหลังจากพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 ใช้บังคับ การพิจารณาว่าโจทก์จะฎีกาได้หรือไม่ ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะยื่นฎีกา ในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาไม่ได้แม้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองบ้านพร้อมที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๘๖ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านกลับ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี โจทก์มีสิทธิครอบครองและอยู่อาศัยจนถึงวันที่ ๖มิถุนายน ๒๕๓๑ ตามคำสั่งศาลจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๓๑ จำเลยทั้งเจ็ดร่วมกันใช้มีดตัดฟันต้นไผ่ในบริเวณบ้านเสียหาย ๒๐ ลำ ราคา ๓๐๐ บาท และร่วมกันมีมีดบุกรุกเข้าไปในบ้านโจทก์โดยไม่มีเหตุสมควร อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุขและร่วมกันลักไม้ไผ่ ๔ ลำ ราคา ๓๐ บาท ของโจทก์โดยฉกฉวยเอาไปซึ่งหน้า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๘, ๓๖๒, ๓๖๕, ๓๓๖, ๘๓, ๙๐ และ ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นฎีกาเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๓๒ หลังจากพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๓๒ ใช้บังคับ การพิจารณาว่าโจทก์จะฎีกาได้หรือไม่ต้องพิจารณาตามบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะยื่นฎีกาคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์จึงฎีกาไม่ได้แม้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๑๓
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share