คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 191/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์จ้างบริษัทต่างประเทศเป็นที่ปรึกษา โดยส่งคนมาในประเทศ โจทก์ส่งค่าจ้างไปยังบริษัทต่างประเทศ เงินนี้ถือเป็นเงินกำไร หรือถือเป็นเงินกำไรของบริษัทในต่างประเทศรวมอยู่ด้วย ซึ่งโจทก์ต้องเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ
เจ้าพนักงานประเมินใช้วิธีคำนวณจากภาษีที่โจทก์ชำระไว้แล้ว เป็นกำไรสุทธิเท่าใดแล้วหักภาษีที่ชำระแล้วออก เหลือเท่าใดเป็นเงินกำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีร้อยละ 15 เป็นการถูกต้องแล้ว
โจทก์เสียภาษีเงินได้แทนบริษัทในต่างประเทศไปแล้ว เป็นการเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ มาตรา 71(1) การเสียภาษีเงินได้ตาม มาตรา 70 ทวิ เป็นการเสียภาษีในการจำหน่ายกำไรออกจากประเทศไทย ไม่ใช่เสียภาษีซ้ำซ้อน

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้ว่าจ้างบริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ให้มาเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการโดยการส่งลูกจ้างเข้ามาดำเนินกิจการแก่โจทก์และโจทก์เป็นผู้จัดส่งค่าจ้างอันเป็นเงินได้ทั้งหมดไปยังบริษัทดังกล่าว ส่วนลูกจ้างที่เข้ามาให้คำปรึกษาแก่โจทก์ โจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายค่าที่พักค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ โจทก์ได้ส่งเงินค่าจ้างจำนวน 32,507,548บาท 39 สตางค์ ออกจากประเทศไทยไปให้บริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่ง จำกัดแล้ว เงินจำนวนนี้ โจทก์เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแทนบริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่งจำกัด ในอัตราร้อยละ 2 ของยอดรายรับค่าจ้างก่อนหักรายจ่ายตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ มาตรา 70(1) รวมเป็นเงิน 650,150 บาท98 สตางค์แก่จำเลยที่ 1 แล้ว ดังนี้ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าเงินค่าจ้างที่โจทก์จ่ายให้บริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่ง จำกัด เป็นเงินกำไรหรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไรของบริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งโจทก์จะต้องเสียภาษีเงินได้แทนตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิหรือไม่ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เงินค่าจ้างที่โจทก์จ่ายให้บริษัทฮาเย็คเอนยิเนียริ่ง จำกัด เป็นเงินกำไรหรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไรของบริษัทฮาเย็คเอนยิเนียริ่ง จำกัด รวมอยู่ด้วย ซึ่งโจทก์จะต้องเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70 ทวิ

ส่วนปัญหาเรื่องการคำนวณภาษีเงินได้นั้น เจ้าพนักงานประเมินใช้วิธีคำนวณจากภาษีที่โจทก์ชำระไว้แล้วเป็นกำไรสุทธิเท่าใด แล้วหักภาษีที่ชำระแล้วออก เหลือเท่าใดเป็นเงินกำไรที่ต้องเสียภาษีร้อยละ 15 ถือได้ว่าเป็นการคำนวณภาษีเงินได้ถูกต้องแล้ว สำหรับปัญหาเรื่องการเสียภาษีซ้ำซ้อนเห็นว่าการที่โจทก์เสียภาษีเงินได้แทนบริษัทฮาเย็ค เอนยิเนียริ่ง จำกัด ในอัตราร้อยละ 2 ของยอดรายรับค่าจ้างก่อนหักรายจ่ายให้จำเลยที่ 1 ไปแล้ว เป็นการเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 76 ทวิ, มาตรา 71(1) ส่วนการเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 ทวิ เป็นการเสียภาษีเนื่องจากมีการจำหน่ายเงินกำไรหรือที่ถือว่าเป็นเงินกำไรออกจากประเทศไทย หาใช่เป็นการเสียภาษีซ้ำซ้อนไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share