คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้าวและเรือที่ใช้บรรทุกข้าวของกลางในคดีที่หาว่า ทำผิด พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว จะริบได้ต่อเมื่อปรากฎว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 หากยังไม่ปรากฎว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 แล้วจะริบมิได้.

ย่อยาว

คดีมีปัญหาฉะเพาะการริบของกลาง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวสาร ๗๐ กิโลกรัมทางทะเลฝ่าฝืนประกาศฯ จำเลยที่ ๒ เป็นนายเรือ ซึ่งไม่มีใบอนุญาตและไม่ได้นำเรือไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อจะออกเรือ เรือนั้นบรรทุกน้ำตาล จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไม่ฟังว่าจำเลยทำผิด ให้ยกฟ้อง ริบข้าวและเรือ
ศาลอุทธรณ์เห็นฟ้องด้วยศาลชั้นต้นที่ไม่ฟังว่าจำเลยทำผิด แต่เห็นว่าข้าวและเรือโดยปกติไม่ใช่ของที่มีสภาพเป็นความผิดในตัวเอง ต่อเมื่อผู้ใดผู้หนึ่งเกี่ยวข้องกระทำผิดขึ้น จึงเป็นของต้องริบ คดีนี้ไม่ปรากฎว่าจำเลยคนใดกระทำผิด ข้าวและเรือจะเกิดมีความผิดขึ้นเองหาได้ไม่ พิพากษาแก้ ไม่ให้ริบข้าวและเรือ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ๒๔๘๙ มาตรา ๑๐ ห้ามการขนย้ายข้าว แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ความว่า มีการขนย้ายข้าว ๆ ที่ติดเรือไปมีจำนวนเล็กน้อยสำหรับบริโภค ไม่ฝ่าฝืนมาตรา ๑๐ จะมีการริบข้าวและเรือไม่ได้
พิพากษายืน.

Share