คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 ไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้อายัดทรัพย์ซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน๙,๑๗๔ บาทและดอกเบี้ยชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือน คิดจากต้นเงิน ๖,๖๐๐บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และขออายัดเงินบำเหน็จและโบนัสประจำปีของจำเลย ศาลสั่งให้อายัดเงินบำเหน็จและโบนัสของจำเลยจำนวน ๙,๕๐๐ บาท
วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๓ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องแก่โจทก์
วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๓ โจทก์ยื่นคำร้องว่านายเกษม ศุขโรจน์ โจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๒๒/๒๕๑๓ ขอหมายบังคับคดีให้อายัดเงินบำเหน็จและโบนัสของจำเลยรายเดียวกันกับที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาคดีนี้ และโรงงานยาสูบส่งเงินที่กล่าวไปยังกองบังคับคดีแพ่ง จำนวน ๖,๑๐๖ บาท ๓๔ สตางค์ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๑๓ โจทก์ขอหมายบังคับคดีนี้เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๑๓คำสั่งอายัดชั่วคราวก่อนพิพากษายังไม่ถูกยกเลิกต้องถือว่ามีการบังคับคดีมาตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๑๒ ซึ่งเป็นวันออกหมายอายัดชั่วคราวนายเกษม ศุขโรจน์ อายัดซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ และไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงิน ๖,๑๐๖.๓๘ บาท ขอให้ศาลมีคำสั่งให้กองบังคับคดีแพ่งจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์
นายอมรศักดิ์เจ้าพนักงานบังคับคดีแถลงว่า โรงงานยาสูบส่งเงินของจำเลย ๖,๑๐๖ บาท ๓๔ สตางค์ ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๒๒/๒๕๑๓และส่งเงินของจำเลยตามหมายบังคับคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๓ จำนวน ๗,๓๗๑.๕๖ บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การอายัดเงิน ๙,๕๐๐ บาท ของโจทก์ก่อนคำพิพากษาเป็นการอายัดชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเท่านั้น มิใช่เรื่องเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ฉะนั้นเมื่อนายเกษมเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๒๒/๒๕๑๓ ดำเนินการบังคับคดีอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาย่อมทำได้ไม่ถือว่าเป็นการอายัดซ้ำ ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ว่ามีสิทธิได้รับเงินที่ยังขาดอีก ๒,๑๒๘.๔๔ บาท จากเงิน ๖,๑๐๖.๓๘ บาท ที่นายเกษม ศุขโรจน์ ขออายัดซ้ำ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ ศาลออกหมายบังคับคดีถึงหัวหน้ากองบังคับคดีแพ่งในวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๑๓ แต่นายเกษม ศุขโรจน์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๒๒/๒๕๑๓ ได้ขอหมายบังคับคดีในคดีนั้นและกองบังคับคดีแพ่งได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๑๓ ขออายัดเงิน ๖,๑๐๖.๓๔ บาท ของจำเลยซึ่งเป็นเวลาก่อนการออกหมายบังคับคดีในคดีนี้ จนโรงงานยาสูบได้ส่งเงิน ๖,๑๐๖.๓๔บาท ไปยังกองบังคับคดีแพ่งตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๑๓ แล้ว ดังนี้ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินจำนวน ๖,๑๐๖.๓๔ บาท ของจำเลยเป็นการอายัดไว้แทนนายเกษม ศุขโรจน์ โจทก์จึงเป็นฝ่ายที่ต้องห้ามมิให้อายัดเงินจำนวนนี้ซ้ำอีก หาใช่นายเกษม ศุขโรจน์ ต้องห้ามไม่ให้อายัดเงินของจำเลยซ้ำดังที่โจทก์กล่าวอ้างไม่ กรณีอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๔ ไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้อายัดทรัพย์ซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐
พิพากษายืน

Share