คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยและผู้ร้องทั้งสองเป็นทายาทของส. เมื่อส.ถึงแก่กรรมผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นทำหนังสือยินยอมให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกต่อมาจำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทของส. และผู้ร้องทั้งสองแก่โจทก์โดยผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นทราบแล้วแต่มิได้โต้แย้งคัดค้านดังนี้ฟังได้ว่าทายาททุกคนรวมทั้งผู้ร้องทั้งสองยินยอมให้จำเลยทำสัญญาและแต่ละคนเชิดให้จำเลยเป็นตัวแทนของตนแม้ขณะที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายนั้นจำเลยยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกก็ตามสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันผู้ร้องทั้งสองที่จะต้องโอนขายที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนของตนให้แก่โจทก์ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของนายสันต์โอนที่ดินโฉนดเลขที่ 9884ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อันเป็นทรัพย์มรดกของนายสันต์แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ระหว่างพิจารณา นายวีระชาติและนายน้อย ยื่นคำร้องสอดว่าสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินมีผลบังคับทรัพย์มรดกเฉพาะส่วนของจำเลยเท่านั้นหาผูกพันส่วนของผู้ร้องทั้งสองและน้องอีก 5 คน ด้วยไม่ขอให้พิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยสำหรับที่ดินส่วนที่เป็นสิทธิของผู้ร้องทั้งสอง
โจทก์ยื่นคำให้การแก้คำร้องสอดว่า แม้สัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยได้ทำขณะศาลยังไม่มีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายสันต์ก็ตาม แต่ขณะทำสัญญามีทนายความของจำเลยและทายาทคนอื่นรู้เห็น ทั้งทายาททุกคนยินยอมให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกแล้วผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นได้ยินยอมโดยปริยายให้จำเลยขายที่พิพาทแล้วสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทจึงผูกพันผู้ร้องทั้งสอง ขอให้ยกคำร้องสอด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะไปฟ้องร้องเอาเฉพาะส่วนของจำเลยตามสัญญาต่อไปภายในอายุความ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ร้องทั้งสองกับทายาทคนอื่นอีก5 คน ทำหนังสือยินยอมของทายาทรวม 7 คนยอมให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรของนายสันต์เจ้ามรดกเป็นผู้จัดการมรดกของนายสันต์ มีผลเท่ากับทายาทของนายสันต์ผู้ลงลายมือชื่อในหนังสือยินยอมของทายาทฉบับดังกล่าวมอบให้จำเลยแต่ผู้เดียวเป็นผู้ดำเนินการจัดการเกี่ยวกับมรดกของนายสันต์ การขายที่พิพาทเพื่อนำเงินมาชำระหนี้กองมรดก รวมทั้งการนำเงินที่ขายได้มาแบ่งปันแก่บรรดาทายาทก็เป็นวิธีการจัดการมรดกของนายสันต์วิธีหนึ่ง แม้ขณะที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทให้แก่โจทก์จำเลยยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลชั้นต้นให้เป็นผู้จัดการมรดกของนายสันต์ก็ตาม แต่เมื่อได้พิจารณาถึงการที่ผู้ร้องทั้งสองและทายาทคนอื่น ๆ มอบให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายสันต์เพียงผู้เดียว และต่างยินยอมให้จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทให้แก่โจทก์และแต่ละคนเชิดให้จำเลยเป็นตัวแทนของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 สัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทที่จำเลยทำไว้กับโจทก์จึงมีผลผูกพันผู้ร้องทั้งสองที่จะต้องโอนขายที่พิพาทเฉพาะส่วนของผู้ร้องทั้งสองให้แก่โจทก์ด้วย
พิพากษากลับ ให้จำเลยจดทะเบียนโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 9884ให้แก่โจทก์โดยให้โจทก์ชำระเงินจำนวน 325,000 บาทแก่จำเลยด้วย หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

Share