คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยบุกรุกเข้าไปกระทำอนาจารผู้เสียหายซึ่งนอนอยู่ในมุ้งภายในบ้านของ ล.ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นปัดมือจำเลยแล้วเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงหลบหนีไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ไม่ใช่หลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจบุกรุกเข้าไปในบ้านของนางลมัยโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปได้ แล้วจำเลยได้นั่งทับ กอดปล้ำ กระทำอนาจารแก่เด็กหญิงขวัญใจอายุ 13 ปีเศษ และขู่เข็ญไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278, 364, 365ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 9

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278, 364, 365 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 9 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 278 อันเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ให้จำคุก 1 ปี

โจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมอันเป็นกระทงความผิด

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องหรือลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมอันเป็นกระทงความผิด

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น เมื่อผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นก็เห็นจำเลยกระทำอนาจารและการกระทำเช่นนั้นย่อมเป็นการส่อแสดงถึงความไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปในเคหสถานที่อยู่อาศัยของนางลมัย อันเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดฐานบุกรุก ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลล่างพิพากษาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share