แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นนายกเทศมนตรีและเป็นทนายฝ่ายโจทก์ในคดีเรื่องหนึ่ง จำเลยเป็นทนายฝ่ายจำเลยในคดีนั้น ในระหว่างสืบพะยานจำเลยได้กล่าวว่า “ถามพะยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นอะไร เป็นเทศมนตรีไม่เห็นดีอะไร” ดังนี้ เป็นถ้อยคำต่ำช้าอันสามัญชนไม่พึงกล่าว แต่ยังไม่ถึงขั้นใส่ความ หรือเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาท.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนายกเทศมนตรีเมืองภูเก็ต และเป็นทนายฝ่ายโจทก์ในคดีดำที่ ๓๑/๒๔๙๑ จำเลยเป็นทนายฝ่ายจำเลยในคดีนั้น ในระหว่างสืบคดีดังกล่าวนั้น จำเลยได้กล่าวคำหมิ่นประมาทโจทก์ว่า “ถามพะยานอย่างโง่ ถามอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นอะไร เป็นเทศมนตรี ไม่เห็นดีอะไร” ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๒,๓๓๙.
ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องแล้วเห็นว่า ถ้อยคำที่โจทก์หาไม่มีลักษณะเป็นการใส่ความหรือหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นถ้อยคำอันสาธุชนย่อมไม่พึงกล่าว แต่ยังไม่ถึงขั้นใส่ความ หรือเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาท
พิพากษายืน.