แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เกิดเหตุและเวลาเกิดเหตุกรัมละ 4 บาท เป็นแต่กล่าวว่ารัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ 4 บาท จำหน่ายแห่งใดก็ไม่ทราบ ทั้งจำเลยก็ไม่ได้ให้การรับราคาตามที่โจทก์ฟ้อง โจทก์มีหน้าที่สืบให้สมแต่ไม่สืบ จึงควรปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำคือ 50 บาท
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482 และ 1308 /2482)
คู่ความรับกันว่า กรมสรรพมิตต์มีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นพาฝิ่นออกนอกร้านได้ดังนี้ นโยบายนั้นหาลบล้างกฎหมายได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพาหลอดฝิ่นเปล่า ๔๘ หลอดกับมูลฝิ่นหนัก ๑๖๐ กรัมราคา ๖๔๐ บาท ซึ่งรัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ ๔ บาท ออกนอกร้านจำหน่ายฝิ่นโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การรับและแสดงว่าการที่จำเลยนำฝิ่นออกนอกร้านก็เพราะกรมสรรพสามิตต์เคยมีนโยบายให้เจ้าของร้านฝิ่นพาฝิ่นออกนอกร้านได้ โจทก์แถลงว่านโยบายเช่นว่านั้นมีจริง แต่เป็นนโยบายปีก่อน ๆ ของทางกรมสรรพมิตต์หาลบล้างกฎหมายไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย ๒๑๓๗ บาท ๓๔ สตางค์ ตามพ.ร.บ.ฝิ่น ๒๔๗๒ ม.๕๓ พ.ร.บ.ฝิ่น(ฉบับที่ ๔) ๒๔๘๑ ม.๖ ก.ม.ลักษณะอาญาม.๕๙ ของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์แก้ให้คืนหลอดฝิ่นให้แก่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่ามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่เกิดเหตุและเวลาเกิดเหตุ กรัมละ ๔ บาท เป็นแต่กล่าวรวมว่ารัฐบาลจำหน่ายเวลานี้กรัมละ ๔ บาท จำหน่ายแห่งใดไม่ทราบ ทั้งจำเลยไม่ได้ให้การรับราคาตามฟ้องจึงควรปรับจำเลยคั่นต่ำ
พิพากษาแก้ ให้ปรับจำเลย ๕๐ บาท นอกนั้นยืน