แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
1.  เสื่อปรือที่ใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน  พ.ศ. 2478  มาตรา 10  วรรค 2 หรือไม่  เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
2.  เสื่อปรือแม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองก็จริง  แต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช้ในการเล่นพนันแล้ว  เสื่อหรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้
3.  ในกรณีที่โจทก์บรรยายในฟ้องว่า  เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป้นเครื่องมือที่จำเลยใช้เล่นพนันและจับได้ในวงเล่น  จำเลยก็รับสารภาพแปลได้ว่าจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง  ศาลมีอำนาจที่จะริบในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน  พ.ศ. 2478  มาตรา 10  วรรค 2  การริบหรือไม่อยู่ในดุลพินิจของศาล  แต่พิเคราะห์ดูพฤติการณ์ที่ปรากฏในคดีแล้วเห็นไม่ควรริบ  ก็สั่งไม่ริบได้
(ประชุมใหญ่  ครั้งที่  35/2505)
ย่อยาว
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ  แต่ไม่ริบเสื่อปรือ  ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน  อ้างว่าเสื่อปรือเป็นเพียงเครื่องมือหรือทรัพย์สินที่ใช้รอง  หาใช่เครื่องมือหรือทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นพนันโดยเฉพาะไม่
โจทก์ฎีกาให้ริบเสื่อปรือ
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า  เสื่อปรือที่จำเลยใช้รองโขกโบกจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน  พ.ศ. ๒๔๗๘  มาตรา ๑๐  วรรค ๒ หรือไม่  เป็นข้อกฎหมาย  และวินิจฉัยต่อไปว่า  เสื่อปรือนี้แม้โดยสภาพจะใช้สำหรับรองดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ก็จริงอยู่  แต่ถ้าผู้เล่นพนันได้นำมาใช่ในการเล่นพนันแล้ว  เสื่อปรือก็อาจเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนันได้
คดีนี้โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องว่า  เสื่อปรือของกลางใช้สำหรับรองโขกโบกเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้ในการเล่นพนัน  ทั้งจับได้ในวงเล่น  จำเลยให้การว่า  “ขอรับสารภาพความผิดเป็นจริงดังโจทก์ฟ้อง”  ซึ่งพอแปลความหมายได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ  ศาลจึงมีอำนาจที่จะริบเสื่อปรือได้ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน  พ.ศ. ๒๔๗๘  มาตรา ๑๐  วรรค ๒  ตามที่โจทก์อ้างมา  ซึ่งควรจะริบหรือไม่นี้  อยู่ในดุลพินิจของศาล  เมื่อได้พิเคราะห์พฤติการณ์เท่าที่ปรากฏในคดีแล้ว  ศาลฎีกาเห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรที่จะริบเสื่อปรือของกลางรายนี้
พิพากษายืน  ยกฎีกาโจทก์

