คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1898/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษจำเลยจนคดีเสร็จเด็ดขาดไปแล้วก่อนที่จะได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง สิทธิที่จะฟ้องคดีแพ่งมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม
การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญานั้น เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้จำเลยได้รับโทษทางอาญา ค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดีอาญาจึงไม่ใช่ค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงเรียกร้องเอาจากจำเลยฐานละเมิดได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ โดยโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ปรับ 600 บาท ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษายืน โจทก์จำเลยฟังคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2518 การหมิ่นประมาทของจำเลยต่อโจทก์ทำให้โจทก์เสียหายต่อชื่อเสียง ฯลฯ โจทก์ขาดรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและการจำหน่ายหนังสือพิมพ์รวมเป็นเงิน 221,891 บาท และการที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาโจทก์ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าป่วยการค่าพาหนะ พยานโจทก์ ค่าทนายความรวม 30,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 251,890 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหายที่รายได้ลดลง 144,000 บาท และค่าใช้จ่ายฟ้องคดีอาญา 15,000 บาท รวมเป็นเงิน159,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายสำหรับรายได้ที่ลดลงเป็นเงิน 60,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยฯ ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ใช้จ่ายในการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาให้ยก

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยลงโฆษณาข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ในหนังสือพิมพ์เจี่ยเป้า ศาลจังหวัดสงขลา ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาพิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328ปรับ 600 บาท โจทก์จำเลยฟังคำพิพาษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2518 คดีถึงที่สุดชั้นศาลฎีกา จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์จริง

ปัญหาเรื่องฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่วินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาและศาลพิพากษาลงโทษจำเลยคดีเสร็จเด็ดขาดแล้วก่อนที่จะได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีอายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยถึงที่สุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2518 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2519 ยังไม่เกิน 10 ปี ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ

ส่วนค่าเสียหายสำหรับค่าใช้จ่ายในการที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญานั้นเห็นว่าการฟ้องคดีอาญาเป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้จำเลยได้รับโทษทางอาญาค่าใช้จ่ายในการฟ้องจึงมิใช่ค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงเรียกร้องเอาจากจำเลยฐานละเมิดได้

พิพากษายืน

Share