แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลมีคำสั่งให้ จำเลยชำระค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาเพิ่ม ตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 28 กันยายน 2538 ครบกำหนดเวลาแล้วจำเลยไม่ชำระค่าขึ้นศาล จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่จำเลยชำระมาแล้วให้แก่จำเลยทั้งหมด จำเลยเห็นว่า ศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลย ชำระค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพิ่มเติม เพราะคดีพ้นอำนาจของ ศาลชั้นต้นแล้ว ขอศาลอุทธรณ์ได้โปรดมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น รับฎีกาของจำเลยต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถวเลขที่ 487(29/31) ถนนสุทธิสาร แยก 1แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ห้ามจำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับตึกแถวดังกล่าวอีกต่อไป ให้จำเลยชำระเงิน 9,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของ ต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 23 สิงหาคม 2534) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลย ชำระค่าเสียหายต่อไปอีกเดือนละ 3,000 บาท นับแต่วันถัดจาก วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากตึกแถว ดังกล่าวเสร็จสิ้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นคดีที่มีคำขอปลดเปลื้อง ทุกข์อันอาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ และนัดพร้อมกำหนดทุนทรัพย์ ในชั้นฎีกาเป็นเงิน 120,000 บาท และให้จำเลยชำระค่าขึ้นศาล เพิ่มตามจำนวนทุนทรัพย์ดังกล่าวภายใน 15 วัน นับแต่วัน มีคำสั่ง ก่อนครบกำหนดจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้น สั่งว่า ศาลยังไม่มีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยแต่อย่างใด อุทธรณ์ของจำเลยจึงไม่มีสาระควรแก่ศาลอุทธรณ์จะพิจารณา ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลให้จำเลย (อันดับ 104) ต่อมาจำเลยไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึง มีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 99,98,103) จำเลยจึงยื่นคำร้อง (อุทธรณ์) นี้ (อันดับ 106) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นกรณีอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบ มาตรา 252 ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา มิใช่ยื่นต่อศาลอุทธรณ์ และต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง มาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลด้วย จึงให้จำเลยดำเนินการแก้ไขอุทธรณ์ให้ถูกต้องและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือหาประกันให้ไว้ ต่อศาลก่อนภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งหรือถือว่า ทราบคำสั่ง จำเลยยื่นฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลมีคำสั่ง ในอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยฉบับลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2538 ให้จำเลยดำเนินการแก้ไขอุทธรณ์คำสั่งมา ให้ถูกต้อง และให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ แต่จำเลยไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งภายในกำหนด กลับมายื่นฎีกาคำสั่งดังกล่าวของศาลอีก ซึ่งไม่มีบทบัญญัติข้อกฎหมายให้ทำได้จึงไม่รับฎีกาคำสั่งฉบับนี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลมีรายงานเจ้าหน้าที่ฉบับลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2538 ว่า ตามที่ศาลได้มีคำสั่งในอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยฉบับลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2538ให้จำเลยแก้ไขอุทธรณ์ให้ถูกต้องและให้นำเงินค่าธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งก่อนนั้นบัดนี้พ้นกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกาเพื่อ พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยฉบับลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2538(อันดับ 108,109)
คำสั่ง จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย