คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1897/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอ้างว่าได้ผ่อนชำระหนี้ตามสัญญายอมความในศาลเสร็จสิ้นแล้ว. โดยตกลงกันว่าโจทก์จะไม่คิดดอกเบี้ยตามสัญญา.โจทก์ปฏิเสธว่าจำเลยไม่เคยชำระหนี้. ไม่เคยตกลงยอมไม่คิดดอกเบี้ย. ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำการนอกศาล โดยศาลไม่รับรู้ด้วย. เมื่อโจทก์ไม่รับรองว่าได้รับเงินครบถ้วนแล้ว. จำเลยจะยกมาเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีไม่ได้.

ย่อยาว

คดีนี้ เดิมจำเลยยอมความใช้เงินให้โจทก์แล้วไม่ใช้ โจทก์นำยึดเรือนจำเลยขายทอดตลาดไปแล้ว ยังไม่พอชำระหนี้ ต่อมาโจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยเพิ่มเติมอีก โดยยึดเรือนหลังเดิม จำเลยร้องว่า ขายเรือนครั้งแรก โจทก์ประมูลได้ จำเลยผ่อนชำระเงินแก่โจทก์จนครบตามสัญญายอมความ โจทก์ตกลงจะไม่คิดดอกเบี้ยจำเลยซื้อเรือนหลังนี้จากโจทก์ ขอให้ศาลไต่สวน โจทก์คัดค้านว่า จำเลยไม่เคยชำระหนี้แก่โจทก์ ฯลฯ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วให้ยกคำร้องจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยอ้างว่าจำเลยได้ผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้ว โดยตกลงกันว่าโจทก์จะไม่คิดดอกเบี้ยตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ปฏิเสธว่าจำเลยไม่เคยชำระหนี้เลย และไม่เคยตกลงยอมไม่คิดดอกเบี้ย ดังนี้ เป็นเรื่องที่จำเลยกระทำการนอกศาลโดยศาลไม่ได้รู้เห็นด้วย เมื่อโจทก์ไม่รับรองว่าได้รับเงินครบถ้วนแล้ว จำเลยจะยกมาเป็นเหตุให้ศาลงดการบังคับคดีหาได้ไม่เป็นเรื่องที่จำเลยจะไปว่ากล่าวกับโจทก์เป็นอีกเรื่องหนึ่งดังคำพิพากษาฎีกาที่ 1271/2510 พิพากษายืน.

Share