คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1017/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การได้กัมสิทธิไนที่ดินกับการได้สิทธิทางเดินบนที่ดินย่อมเปนสิทธิคนละหย่าง แม้จำเลยจะเปนผู้ได้กัมสิทธิไนที่ดินตามคำสั่งสาลก็ตามแต่สิทธิไนทางเดินบนที่ดินนั้นก็ยังอาดมีไนที่ดินนั้นได้ , เมื่อสาลดีกาเห็นสมควนจะได้ฟังข้อเท็ดจิงไนคดีต่อไปก็มีอำนาดย้อนสำนวนไปไห้สาลล่างสืบพยานต่อไปได้.

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้บังคับจำเลยรื้อรั้วเปิดทางเดินไห้โจทดังเดิมและไห้จำเลยจดทเบียนภาระจำยอมต่อเจ้าพนักงานด้วย
ชั้นพิจารนาโจทจำเลยรับกันว่า ที่ดินโจทจำเลยเดิมเปนของเจ้าของคนเดียวกันเพิ่มแบ่งแยกทางมรดกเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๔๗๗ ฝ่ายโจทแถลงว่าเคยไช้ทางเจ้าออกสู่ทางสาธารนะผ่านที่ดินของจำเลย ส่วนจำเลยว่าโจทจำเลยตลอดจนบัพบุรุสของโจทจำเลยเคยไช้ทางผ่านที่ดินของจำเลยและของหม่อมหลวงหยิงรำไฟซึ่งหยู่ตวันออกที่ดินของโจทไปสู่ทางสาธารนะ
สาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิฉัยได้แล้ว จึงสั่งงดสืบพยานโจทจำเลย และฟังว่าโจทยังไม่ได้ภาระจำยอมทางอายุความ พิพากสายกฟ้องโจท สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกาขอไห้สืบพยานก่อนวินิฉัยคดี สาลดีกาเห็นว่า แม้ที่พิพาทเดิมจะเปนผืนเดียวกันก็ดี แต่ต่อมาถ้าหากได้แบ่งแยกครอบครองเปนตอน ๆ ที่ดินแต่ละตอนมีผู้ครองครองต่างกันได้ เดินผ่านกัน ก็อาดทำไห้ที่ดินตอนหนึ่งเกิดได้สิทธิไห้เดินผ่านที่ดินอีกตอนหนึ่งได้ และแม้สาลจะได้เคยพิพากสาไห้กัมสิทธิไนที่ดินตกแก่ฝ่ายจำเลยก็ดี สิทธิไนทางเดินก็ยังอาดมีไนที่ดินนั้นได้เหมือนกัน กัมสิทธิกับสิทธิไนทางเดินเปนคนละหย่างกัมสิทธิหยู่ไนมือคนหนึ่ง สิทธิทางเดินบนที่ดินอาดหยู่ไนมืออีกคนหนึ่งได้ เห็นสมควนฟังข้อเท็ดจิงต่อไป จึงพิพากสายกคำพิพากสาสาลล่างทั้งสองไห้สาลชั้นต้นไห้โอกาสคู่ความนำสืบพยานประกอบคดีของตนได้ต่อไป

Share