แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 5 บัญญัติยกเว้นโทษให้แก่ผู้มีอาวุธปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและได้นำอาวุธปืนฯ ไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ หาได้บัญญัติว่าการมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่เป็นความผิดไม่ เช่นนี้จำเลยซึ่งถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่ามีคำความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามจะอ้างว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยไปไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีถึงที่สุดว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 ฐานมีกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามโดยไม่รับอนุญาต จำคุก 2 ปี
หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยยื่นคำร้องว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น บัดนี้ ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 บัญญัติในภายหลังที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวแล้วว่า การกระทำของจำเลยเกี่ยวกับกระสุนปืนไม่เป็นความผิด จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษอีกต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง ขอให้ปล่อยตัวจำเลย
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ได้บัญญัติว่า การกระทำของจำเลยที่มีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามโดยไม่รับอนุญาตไม่เป็นความผิดต่อไปหรือไม่ ได้พิจารณาแล้ว ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 5 บัญญัติว่า ผู้ใดมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ถ้าได้นำอาวุธปืนฯ ดังกล่าวมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ฯลฯ เห็นได้ว่า ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 บัญญัติยกเว้นโทษให้แก่ผู้ที่มีอาวุธปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและได้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ ดังกล่าวไปมอบให้นายทะเบียนท้องที่ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ดังกล่าวหาได้บัญญัติว่าการมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามของ จำเลยเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไปไม่ เช่นนี้ จำเลยจะอ้างว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง และขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวจำเลยไปดังข้อฎีกาของจำเลยไม่ได้
พิพากษายืน