แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเข้าไปกอดภริยาของจำเลยซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะในร้านขายอาหารจำเลยได้ต่อว่าผู้ตายกับ ว. ซึ่งมากับผู้ตาย ว. ไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจและจะให้ผู้ตายไปขอขมาภริยาจำเลย จำเลยคอยดูอยู่ว่าผู้ตายจะขอขมาภริยาจำเลยหรือไม่ รออยู่ประมาณ 15 นาที ผู้ตายก็มิได้มาขอขมา จำเลยเสียใจได้ใช้ไม้ ยาว 32 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว หนา 1.4 นิ้ว ตีผู้ตายที่ศีรษะอย่างแรง 2 ที เป็นบาดแผลฉกรรจ์ ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลนั้น ดังนี้ ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า และการที่จำเลยบันดาลโทสะเพราะผู้ตายลวนลามภริยาของจำเลยได้ขาดตอนไปแล้วและการที่ผู้ตายไม่ขอขมาภริยาจำเลยนั้น ก็ไม่ใช่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจะอ้างว่ากระทำโดยบันดาลโทสะไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ไม้ท่อนยาว 32 นิ้ว กว้าง 6 นิ้ว หนา 1.4 นิ้ว ตีนายเล้ง ชุณวงศ์ หรือ แซ่ลิ้ม 2 ที โดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายที่ศีรษะด้านหลังเป็นแผลช้ำบวมโต 5 เซนติเมตร เบ้าตาซ้ายช้ำบวมโต 3 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะแตกยาว 8 เซนติเมตร สมองช้ำมาก โลหิตตกใน นายเล้งถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 และริบไม้ของกลาง
จำเลยให้การว่า ไม่มีเจตนาฆ่า และกระทำไปเพราะบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนา แต่กระทำไปโดยบันดาลโทสะ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 72 ให้จำคุก 2 ปี ริบไม้ของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุก 15 ปี คำให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามมาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าผู้ตายพร้อมด้วยร้อยตำรวจเอกวิโรจน์ ประเสริฐกุลร้อยตำรวจโทเดช รงค์ทอง กับคนอื่นอีก 6-7 คน ไปเที่ยวงานลอยกระทงได้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านข้างเวทีรำวง จำเลยกับพวก 5-6 คน ได้เข้าไปนั่งที่โต๊ะอีกตัวหนึ่ง ห่างกันประมาณ 2 วา ต่อมาผู้ตายเข้าไปกอดภริยาของจำเลยและลูบหลังนางจีรภรณ์ หุ่นทอง ซึ่งนั่งถัดไป จำเลยจึงไปต่อว่าผู้ตายกับร้อยตำรวจเอกวิโรจน์ ร้อยตำรวจเอกวิโรจน์พยายามไกล่เกลี่ยและห้ามปรามโดยพาจำเลยออกไปปรับความเข้าใจกันข้างนอก และจะให้ผู้ตายไปขอขมาภริยาจำเลยในภายหลัง จำเลยก็คอยดูอยู่ว่าผู้ตายจะไปขอโทษภริยาของจำเลยหรือไม่ รออยู่ประมาณ 15 นาที ผู้ตายก็มิได้ไปขอขมา แต่กลับมีเสียงเฮฮากันใหญ่ที่โต๊ะผู้ตาย จำเลยได้ใช้ไม้ของกลางตีผู้ตาย 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลนั้น
แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยใช้ไม้ของกลางตีผู้ตายที่ศีรษะอย่างแรงถึง 2 ครั้ง เมื่อพิจารณาลักษณะของไม้ของกลางประกอบกับใบชันสูตรบาดแผลและคำเบิกความของแพทย์แล้ว เห็นว่าผู้ตายถูกทำร้ายโดยแรงบาดแผลฉกรรจ์ แสดงชัดว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย ส่วนปัญหาที่ว่าการที่จำเลยฆ่าผู้ตายนั้น เป็นการบันดาลโทสะหรือไม่นั้น เห็นว่า การบันดาลโทสะเพราะผู้ตายลวนลามภริยาของจำเลยได้ขาดตอนไปแล้ว และการที่ผู้ตายไม่ขอขมาต่อภริยาจำเลย ก็ไม่ใช่เป็นการข่มเหงจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยจึงอ้างว่ากระทำโดยบันดาลโทสะไม่ได้
พิพากษายืน