แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรังวัด ไต่สวนสอบสวนที่ดินที่โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้น ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นในที่ดินแปลงนั้นแต่อย่างใด เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ ถูกโต้แย้งจากจำเลยแล้วโจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทแต่เดิมเป็นที่ดินตามประทานบัตรของบริษัทสุวรรณเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งสิ้นอายุเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๐๒ ก่อนประทานบัตรนั้นจะสิ้นอายุ โจทก์ตกลงกับบริษัทสุวรรณเทรดดิ้ง จำกัด ขอดำเนินการทำเหมืองแร่ในที่รายนี้สืบต่อไป ครั้นวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๐๒ โจทก์ได้ยื่นเรื่องราวขอประทานบัตรเลขที่ ๓๖/๒๕๐๒ ต่อทรัพยากรธรณีจังหวัดภูเก็ตขอทำเหมืองแร่ในที่รายนี้ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๐๓ ทรัพยากรธรณีจังหวัดภูเก็ตได้ทำการรังวัดไต่สวนสอบสวนที่ดินจนถึงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๐๓ จึงเสร็จ พนักงานได้ทำรายงานการไต่สวนว่าที่ดินที่ขอประทานบัตรมิได้ทับที่ของผู้ใดและเป็นที่รกร้างว่างเปล่าต่อมาวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔ ทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศเรื่องราวขอประทานบัตรของโจทก์แล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน หลังจากประกาศแล้ว๑ ปี จำเลยได้บุกรุกเข้ามาปลูกยางพาราในที่ดินรายนี้ เป็นเนื้อที่ ๘ ไร่ เป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดินฉบับที่ ๖ และกฎหมายที่ดินและพระราชบัญญัติเหมืองแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๑๒ เป็นการขัดขวางไม่ให้โจทก์ดำเนินกิจการเหมืองแร่ จึงขอให้ศาลขับไล่
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทปลูกต้นยางมาประมาณ ๒๐ ปีแล้ว จำเลยมีสิทธิครอบครองดีกว่าโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องและคำให้การแล้วเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้ออ้างในฟ้องของโจทก์นั้นปรากฏว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยสิทธิที่เกิดจากการกระทำของโจทก์ คือ โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอประทานบัตรไว้ แม้จะยังไม่ได้รับอนุญาตมาเสร็จแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการรังวัดไต่สวนสอบสวนที่ดินที่ขอประทานบัตรตลอดจนปรากฏว่าไม่ได้ขอทับที่ของใคร เป็นที่รกร้างว่างเปล่า และไม่มีผู้ใดร้องคัดค้าน โจทก์จึงถือว่าโจทก์มีสิทธิในที่ดินที่ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้นแล้ว ซึ่งศาลเห็นว่าผลของการที่มีการรังวัดสอบสวนและเชื่อว่าเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ทับที่ของใครนั้น เป็นแต่การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจะนำไปสู่การวินิจฉัยว่าจะออกประทานบัตรให้แก่โจทก์หรือไม่ ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดมีสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นขึ้นแล้วในที่ดินแปลงที่ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่แปลงนั้น โจทก์มิได้ฟ้องเข้ามาโดยอาศัยเหตุว่ามีสิทธิเพราะได้รับประทานบัตรไว้แล้ว หรือสืบสิทธิตามประทานบัตรของบริษัทสุวรรณเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งปรากฏว่าหมดอายุไปแล้วนั้นแต่ประการใด อันจะทำให้ต้องวินิจฉัยในทางนั้นเมื่อโจทก์แสดงตามฟ้องไม่ได้ว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ได้รับการโต้แย้งจากจำเลยแล้ว โจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๕ ที่ศาลล่างให้ยกฟ้องเป็นการชอบแล้ว ประเด็นอื่นไม่จำต้องวินิจฉัยต่อไป
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาโจทก์