คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่2อ้างในคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ว่าผู้ร้องไม่มีทางบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่2ได้จำเลยที่2ไม่โต้เถียงในคำคัดค้านว่าตนมีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องอาจบังคับชำระได้ฟังได้ว่าจำเลยที่2ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องอาจยึดมาชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงผู้ร้องจึงขอเฉลี่ยในทรัพย์ที่ถูกยึดได้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา290วรรคสองห้ามศาลอนุญาตให้เข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์หากยังสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้นั้นมิได้หมายถึงลูกหนี้อื่นแม้จะเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาร่วมกับจำเลยที่ถูกยึดทรัพย์ก็ตาม

ย่อยาว

คดี นี้ สืบเนื่อง จาก โจทก์ นำ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ยึดทรัพย์ จำนองของ จำเลย ที่ 2 คือ ที่ดิน โฉนด เลขที่ 1330, 3786, 3787 และที่ดิน ตรา จอง เลขที่ 88 เพื่อ ออก ขายทอดตลาด เอา เงิน มา ชำระหนี้ ของจำเลย ที่ 1 ตาม คำพิพากษา ซึ่ง มี อยู่ แก่ โจทก์ แต่ ยัง ไม่ได้ ประกาศขายทอดตลาด
ผู้ร้อง ยื่น คำร้องขอ เฉลี่ยทรัพย์ ของ จำเลย ที่ 2 ดังกล่าวโดย อ้างว่า ผู้ร้อง เป็น เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ของ ศาลชั้นต้นคดี หมายเลขแดง ที่ 16445/2526 ระหว่าง ธนาคาร สหธนาคาร จำกัด โจทก์ (ผู้ร้อง ) บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรงดี.ซี. จำกัด ที่ 1นาย สุมิตต์ เหลือสุวรรณ ที่ 2 จำเลย ซึ่ง พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ เงิน พร้อม ดอกเบี้ย แก่ โจทก์ หาก จำเลย ทั้ง สอง ไม่ชำระให้ ยึด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 1330, 3786, 3787 และ ที่ดิน ตรา จอง เลขที่ 88พร้อม สิ่งปลูกสร้าง ออก ขายทอดตลาด เอา เงิน มา ชำระหนี้ ผู้ร้อง ไม่มี ทางบังคับ ชำระหนี้ จาก บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ดี.ซี. จำกัด และ จำเลย ที่ 2 ได้ ขอ ศาล มี คำสั่ง ให้ ผู้ร้อง ชำระหนี้ โดย ส่วน เฉลี่ยจาก เงิน ที่ ได้ จาก การ ขายทอดตลาด ที่ดิน 4 แปลง ของ จำเลย ที่ 2ดังกล่าว ใน ฐานะ เจ้าหนี้ บุริมสิทธิ ลำดับ เดียว กับ โจทก์
โจทก์ ไม่ คัดค้าน
จำเลย ที่ 2 คัดค้าน ว่า บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ดี.ซี. จำกัด จำเลย ที่ 1 ใน สำนวน คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 16445/2526ของ ศาลชั้นต้น ยัง มี ทรัพย์สิน พอ ที่ ผู้ร้อง สามารถ ยึด ชำระหนี้ผู้ร้อง ได้
วันนัด ไต่สวน คำร้อง ศาลชั้นต้น สั่ง งด ไต่สวน คำร้อง และ อนุญาตให้ ผู้ร้อง เข้า เฉลี่ยทรัพย์ ได้ ตาม คำร้อง
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “จำเลย ที่ 2 ฎีกา ว่า ศาลชั้นต้น ต้อง ทำการไต่สวน ก่อน เพื่อ ให้ ทราบ ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย ที่ 1 ใน สำนวน คดีแพ่งหมายเลขแดง ที่ 16445/2526 ของ ศาลชั้นต้น มี ทรัพย์สิน ที่ ผู้ร้องสามารถ ยึด มา เพื่อ ชำระหนี้ ผู้ร้อง ได้ หรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้อง เป็นเจ้าหนี้ ของ จำเลย ที่ 2 ตาม คำพิพากษา ใน สำนวน คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่16445/2526 ของ ศาลชั้นต้น ซึ่ง พิพากษา ให้ บริษัท เสาเข็มคอนกรีต อัดแรง ดี.ซี. จำกัด กับ จำเลย ที่ 2 ร่วมกัน ชำระ เงิน พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย แก่ โจทก์ (ผู้ร้อง ) เมื่อ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ใน คดี นี้ ได้ยึดทรัพย์สิน ของ จำเลย ที่ 2 เพื่อ ขายทอดตลาด ผู้ร้อง ไม่อาจ ยึด ซ้ำ ได้แต่ อาจ ขอ เฉลี่ย ใน ทรัพย์สิน ที่ ถูก ยึด ได้ ตาม ประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความ แพ่ง มาตรา 290 วรรคแรก และ ปรากฏว่า ผู้ร้อง อ้าง ใน คำร้องขอ เฉลี่ยทรัพย์ ว่า ผู้ร้อง ไม่มี ทาง บังคับ ชำระหนี้ เอา จาก ทรัพย์สิน อื่น ของจำเลย ที่ 2 ได้ จำเลย ที่ 2 ไม่ โต้เถียง ใน คำคัดค้าน ว่า ตน มี ทรัพย์สินอื่น ที่ ผู้ร้อง อาจ บังคับ ชำระ ได้ เช่นนี้ ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า จำเลยที่ 2 ไม่มี ทรัพย์สิน อื่น ที่ ผู้ร้อง อาจ ยึด มา ชำระหนี้ ได้ โดย สิ้นเชิงผู้ร้อง จึง ขอ เฉลี่ย ใน ทรัพย์ที่ถูกยึด ได้ไม่ ต้องห้าม ตาม ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณา ความ แพ่ง มาตรา 290 วรรคสอง ส่วน ที่ จำเลย ที่ 2 อ้างว่าผู้ร้อง อาจ บังคับ ชำระหนี้ เอา จาก ทรัพย์สิน ของ บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ดี.ซี. จำกัด จำเลย ที่ 1 ใน คดี ดังกล่าว ได้ ก็ เห็นว่า เป็น เรื่อง ที่ ผู้ร้อง อาจ เลือก บังคับ ชำระหนี้ เอา จากลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา คนใด ก็ ได้ เพราะ เป็น ลูกหนี้ ร่วมกัน อยู่ส่วน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสองที่ บัญญัติ ว่า ไม่ว่า กรณี ใด ๆ ห้าม มิให้ ศาล อนุญาต ตาม คำขอ เช่นว่ามา นี้ เว้นแต่ ศาล เห็นว่า ผู้ยื่น คำขอ ไม่สามารถ เอา ชำระหนี้ ได้ จากทรัพย์สิน อื่น ๆ ของ ลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา นั้น ก็ หมายความ ว่า ห้าม ศาลอนุญาต ให้ เข้า เฉลี่ย ใน ทรัพย์สิน ของ ลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา ที่ ถูกยึดทรัพย์ หาก ปรากฏว่า ยัง สามารถ เอา ชำระหนี้ จาก ทรัพย์สิน อื่นของ ลูกหนี้ นั้น ซึ่ง ใน ที่นี้ หมายถึง จำเลย ที่ 2 เท่านั้นมิได้ หมายถึง ลูกหนี้ อื่น คือ บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ดี.ซี. จำกัด แม้ บริษัท ดังกล่าว จะ เป็น ลูกหนี้ ตาม คำพิพากษา ร่วม กับ จำเลย ที่ 2ก็ ตาม ดังนั้น ปัญหา ที่ ว่า บริษัท เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ดี.ซี. จำกัด จำเลย ที่ 1 ใน คดี ดังกล่าว ยัง มี ทรัพย์สิน พอ ให้ ผู้ร้อง สามารถ ยึด มาชำระหนี้ ได้ หรือไม่ จึง ไม่จำเป็น ต้อง ทำการ ไต่สวน ต่อไป คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ชอบแล้ว ฎีกา ของ จำเลย ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share